หากพูดถึงประเทศโปรตุเกส หลายคนอาจจะนึกภาพไปต่างๆ นานาว่า จะนึกถึงอะไรกันดี เพราะที่โปรตุเกสนั้นมีอะไรให้นึกถึงมากมาย หากเป็นหนุ่มๆ อาจจะนึกถึงนักฟุตบอล หรือเรือสวยๆ ที่ว่ากันว่า ชาวโปรตุเกสเป็นนักเดินเรือที่สุดยอด หากแต่ถ้าเป็นสาวๆ นึกถึงประเทศนี้แล้ว เชื่อว่าคงจะไม่พ้นเรื่องของกินแน่ๆ โดยเฉพาะขนมหวานของไทย ที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า แท้จริงแล้ว ขนมไทยๆ ที่เป็นต้นตำรับของกลุ่มทองนพเก้านั้น มาจากประเทศโปรตุเกสนั่นเอง
มีการบันทึกไว้ว่า การทำขนมในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ นั้นถือได้ว่าเป็นยุคทองของการทำขนมไทยอย่างมาก โดยเฉพาะ ชาวโปรตุเกสอย่างท่านผู้หญิงวิชาเยนทร์ ผู้เป็นต้นเครื่องขนมหรือของหวานในวัง ซึ่งขณะนั้นมีบรรดาศักดิ์ว่า ท้าวทองกีบม้าได้ สอนให้สาวชาววังทำขนมหวานต่าง ๆ ด้วยการนำไข่ขาวและไข่แดงมาเป็นส่วนผสมสำคัญเหมือนอย่างที่ชาวโปรตุเกสทำกัน ขนมหวานที่ทำขึ้นและยังเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน คือทองหยิบ ฝอยทองทองหยอด ขนมหม้อแกง ขนมทองโปร่ง ขนมทองพลุ ขนมสำปันนี ขนมไข่เต่า ฯลฯ ส่วนในประเทศโปรตุเกสเองนั้น ก็มีสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร และวัฒนธรรมต่างๆ ที่น่าสนใจและเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสัมผัสกับบรรยากาศตลอดทุกเทศกาลเลยทีเดียว
ลักษณะภูมิประเทศ
ประเทศโปรตุเกสเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ตะวันตกสุดของทวีปยุโรป เป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรียทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ส่วนทิศเหนือและทิศตะวันออกติดประเทศสเปน ทิศตะวันตกและทิศใต้ติดมหาสมุทรแอตแลนติก มีพื้นที่โดยรวมทั้งประเทศกว่า 92,391 ตารางกิโลเมตร
การแบ่งเขตการปกครอง
รูปแบบการปกครอง ของโปรตุเกส เป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยแบบรัฐสภา รัฐสภาเป็นแบบสภาเดียว คือ The Assembly of the Republic มีสมาชิก 230 คน อยู่ในตำแหน่งคราวละไม่เกิน 4 ปีซึ่งเป็นการเลือกตั้งระบบพรรค ซึ่งการเลือกตั้งสามารถให้ประชาชนมีการเลือกตั้งนอกประเทศและการออกเสียงทางไปรษณีย์
ศาลมีอิสระในการพิพากษา และ ศาลฎีกาเป็นศาลสูงสุดของประเทศ มีประธานาธิบดี เป็นประมุขของประเทศโดยมาจากการเลือกตั้ง มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี และสามารถดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 สมัยติดต่อกัน มีอำนาจในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและยุบรัฐบาล หากเห็นว่ากระทำผิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งกฎหมายทุกฉบับต้องได้รับความเห็นชอบจากประธานาธิบดี การแบ่งเขตการปกครอง สาธารณรัฐโปรตุเกสแบ่งออกเป็น 18 เขต
เขตลิสบัว หรือ เขตลิสบอน ,เขตเลเรีย ,เขตซังตาแรง,เขตเบจา,เขตฟารู ,เขตปอร์ตาเลกรี ,เขตเซตูบัล ,เขตกัชเตลูบรังกู ,เขตแอวูรา,เขตกวาร์ดา,เขตอาเวรู,เขตโกอิมบรา,เขตวีเซว, เขตบรากังซา ,เขตบรากา,เขตวีลาเรอาล,เขตโอปอร์โต หรือ เขตปอร์ตู,เขตเวียนาดูกัชเตลู นอกจากนี้ประเทศโปรตุเกสยังมี 2 เขตปกครองตนเอง คือ อาโซเรช และ มาเดรา ซึ่งเป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก
ประชากรและวัฒนธรรม
โปรตุเกสมีประชากรประมาณกว่า 10,927,250 คน มีผู้ย้ายถิ่นเข้าประเทศอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก คาบู บราซิล แวร์ดึ ยูเครน และ อังโกลา ชาวโปรตุเกสนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก และยังมีนิกายโปรเตสแตนต์ ภาษาในโปรตุเกส ที่เป็นภาษาทางการ คือภาษาโปรตุเกส เป็นภาษาที่จัดอยู่ในกลุ่มภาษาโรมานซ์ ยังมีภาษาสเปน ฝรั่งเศส และ อิตาลี ด้วย
ประเทศโปรตุเกสได้รับอิทธิพลจากหลากหลายอารยธรรมที่เข้ามาปกครองดินแดน ทำให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้น
ซึ่งงานสถาปัตยกรรมแบบ Manueline เป็นการนำสิ่งที่นักเดินเรือได้ไปพบเห็นมาถ่ายทอดลงบนงานสถาปัตยกรรม รวมถึงประดับตกแต่งอาคารด้วยกระเบื้องวาดลวดลายซึ่งมีอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมแขกมัวร์ นอกจากนี้ยังมี วรรณคดีส่วนดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สุดคือดนตรีฟาดู้ และดนตรีพื้นบ้าน ฯลฯ
สภาพภูมิอากาศของโปรตุเกส
ภูมิอากาศของประเทศโปรตุเกส เป็นแบบยุโรปตอนใต้
ฤดูร้อน จะมีอากาศร้อนจัดระหว่างช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 28-36 องศาฯ
ฤดูหนาวตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนมีนาคม อุณหภูมิประมาณ 0-12 องศา ฯ
ฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10-18 องศาเซลเซียส
โซนเวลาของโปรตรุเกส
ประเทศโปรตุเกสใช้ปรับตามฤดูกาลคือ +1 ชั่วโมง และชดเชยเวลาตามเขตแบ่งเวลาปัจจุบันแบบ UTC/GMT +1 ชั่วโมง
ซึ่งในการปรับเวลาไปตามฤดูกาล โปรตุเกสจะเริ่มปรับเวลาขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม ช่วงเวลา 01:00 น. ซึ่งนาฬิกาจะถูกปรับเลื่อนไปข้างหน้า 1 ชั่วโมง เป็นเวลา 02:00 น.จากนั้นกำหนดการในการปรับเวลาดังกล่าวจะสิ้นสุดลง นวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม ช่วงเวลา 02:00 น. ซึ่งนาฬิกาจะถูกปรับไปข้างหลัง 1 ชั่วโมงเป็นเวลา 01:00 น. และเมื่อเทียบระยะเวลาที่โปรตุเกสแตกต่างจากประเทศไทย เวลาในประเทศโปรตุเกสจะเดินช้ากว่าเวลาในประเทศไทย 6 ชั่วโมง
ค่าเงินที่ใช้ในโปรตุเกส
ค่าเงินที่ใช้ในประเทศโปรตุเกสคือ เอสคูโด ซึ่งมีอัตราการแลกเปลี่ยนเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 5.4 เอสคูโด ต่อ 1 บาท และเตรียมจะเปลี่ยนมาใช้เงินสกุล ทั้งธนบัตรและเหรียญเป็นเงินยูโร
ระบบไฟฟ้าใน ประเทศโปรตุเกส
กระแสไฟฟ้าของประเทศโปรตุเกสต่างจากเมืองไทย ซึ่งกระแสไฟที่ใช้คือ 230 โวลต์ หากคุณนำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปด้วยควรจะนำตัวแปลงไฟไปเพื่อความสะดวก แต่ตามโรงแรมและที่พักส่วนใหญ่จะเตรียมอุปกรณ์แปลงไฟไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว เพื่อความสะดวกเช่นกัน
การใช้โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตสำหรับนักท่องเที่ยว
การใช้โทรศัพท์ของประเทศโปรตุเกส จะมีรหัสคือ +351 หากต้องการให้คนที่อยู่เมืองไทยติดต่อมาที่โปรตุเกสจะต้องกดรหัสนี้ก่อน แต่หากคุณจะโทรกลับเมืองไทย ต้องโทรด้วยการใช้บัตรโทรศัพท์ หรือโทรจากโรงแรม ที่คุณไปพักก็ได้เช่นกัน
อินเทอร์เน็ต
การซื้อซิมการ์ดจากโปรตุเกสก็ต้องเลือกแพ็คเก็จให้คุ้มกับการโทรที่สุด หากต้องการใช้อินเทอร์เน็ตทางมือถือ มห้แจ้ไปที่ศูนย์เมืองไทย แล้วเปิดโรมมิ่ง ใช้แอร์เพลน โมด เพื่อเปิดรับ ฟรีไวไฟ จะทำให้ประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายไปมาก ถ้าอยากคอนเน็คตลอดเวลา ต้องซื้ออินเทอร์เน็ต ซิมการ์ด แบบซื้อเป็นซิมแยกแต่ละประเทศ และเลือกแพ็คเก็จดีๆ
สินค้าและของฝากจากโปรตุเกส
ที่ประเทศโปรตุเกสมีร้านขายของที่ระลึกมากมายในย่านกลางเมืองและตามจัตุรัสต่างๆ รวมถึงสินค้าของแบรนด์เนมและสินค้าพื้นเมือง อย่างงานฝีมือเช่น ดาบและมีด ในเมืองโทเลโด หรือใครที่ชอบงานแฮนด์เมด ก็มีเซรามิก ตุ๊กตาพื้นเมือง และไม้ไก่จากเมือง Barcelos
อาหารที่ขึ้นชื่อของ โปรตุเกส
อาหารของชาวโปรตุเกส มีหลากหลายชนิด ซึ่งส่วนใหญ่ทำจากเนื้อสัตว์เกือบทุกประเภท และนิยมรับประทานซุป ส่วนจานหบักจะมีข้าวและมันฝรั่งเป็นส่วนประกอบ นอกจากนี้ชาวโปรตุเกสยังนิยมนำปลาค๊อดมาตากแห้ง หรือเรียกปลาคอดดองเกลือเพื่อนำมาประกอบอาหารหลากเมนู ส่วนขนมหวานโปรตุเกสที่มีชื่อเสียงคือ ทาร์ตไข่ เป็นขนมที่ทำมาจากไข่แดงและน้ำตาล นิยมรับประทานร่วมกับกาแฟ ขนมฝอยทองดั้งเดิมต้นตำรับโปรตุเกส และOvos Moles เป็นขนมที่อร่อยและมีราคาแพงที่สุด
อาหารทะเล
อาหารประเภทปลา และ อาหารทะเล อย่างเช่น ปลาหมึกย่าง ,ปลาซาร์ดีนย่าง ส่วน arroz de marisco เป็นข้าวปรุงรวมกันกับอาหารทะเลหลากชนิด โจ๊กขนมปังทะเลหรือ a?orda de marisco และ cataplana หอยกับแฮมปรุงรวมกันในน้ำซอสเฉพาะ เสิร์ฟมาในกระทะทองเหลืองเป็นอาหารขึ้นชื่อจากแถบอัลการ์ฟ
อาหารประเภทเนื้อสัตว์
ชาวโปรตุเกสรับประทานเนื้อสัตว์เกือบทุกประเภทไมว่าจะเป็น เนื้อลูกวัว เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อแพะ เนื้อหมู เนื้อลูกหมู เนื้อไก่ และเนื้อกระต่าย ฯลฯ ยังมี ขาหมูรมควันpresunto ไส้กรอกผสมเครื่องเทศ เนื้อลูกหมูย่าง เป็นอาหารขึ้นชื่อบริเวณเมืองกูอิงบรา และ ไก่ย่างแบบโปรตุเกสfrango assado ,เนื้อหมู และหอยตลับ ปรุงรวมกัน เป็นเมนูขึ้นชื่อจากแคว้นอะเล็นไตย์ฌู เนื้อและเครื่องในหมูและวัวเคี่ยวรวมกันกับผัก และสมุนไพรหลากชนิด หรือจะเป็นbitoque เนื้อหรือหมูย่างเสิร์ฟพร้อมไข่ดาวราดด้านบน
ขนมหวาน
ของหวานโปรตุเกสเป็นการเติมเต็มมื้ออาหาร ส่วนมากของหวานที่มักจะเสิร์ฟหลังอาหาร คือมูสช๊อกโกแลต, ข้าวหวานผสมกับนม และ สลัดผลไม้รวม salada de fruta
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศโปรตุเกส
แม้โปรตุเกสจะรวมเอาวัฒนธรรมหลากหลายเข้ามาในประเทศ แต่สถานที่ที่องเที่ยวที่สำคัญ ที่ยังคงงดงามและรอคอยให้นักท่องเที่ยว ต่างพากันเดินทางมาค้นหาและสัมผัสด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความงามของธรรมชาติ หรือสถาปัตยกรรม รวมถึงอารยธรรมและวิถีชีวิตเดิมๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่
เมืองคาสเคส
คาวเคส ตั้งอยู่ห่างจากลิสบอนไปทางทิศตะวันตกประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงของประเทศโปรตุเกส ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆริมชายฝั่งทะเล สมัยก่อนเคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญ และเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีบรรยากาศอันเงียบสงบ แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นที่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวโปรตุเกสและชาวต่างประเทศทั่วโลก
Padrao dos Descobrimentos
อนุสาวรีย์แห่งการค้นพบ สร้างเพื่อระลึกถึงความสำคัญการเดินเรือของชาวโปรตุเกส ลักษณะเป็นแท่งคอนกรีตสูง 52 เมตร รูปเรือใบ ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 1960 เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 500 ปี การสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าเฮนรี่
Mosteiro dos Jeronimos
เป็นสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ ซึ่งเป็นศิลปะกอธิคในสไตล์โปรตุเกสที่ได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศตั้งอยู่ในเขตเบเลม ซุ้มประตู มีลวดลายที่สวยงาม รวมถึงหน้าต่างและหัวเสา มีการดัดแปลงมาจากเปลือกหอย พืชน้ำ และเชือกสมอเรือ ฯลฯ ใช้เวลาสร้างนานถึง 70 ปี และองค์การยูเนสโกของสหประชาชาติได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกด้วย
พิพิธภัณฑ์รถม้า
สมัยที่โปรตุเกสเรืองอํานาจ รถม้าเจริญรุ่งเรืองและสมบูรณ์ที่สุด ตั้งแต่ศตวรรษที่16 ส่วนภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีรถม้าที่ใช้ในสมัยนั้นซึ่งมีความงดงามมาก รถม้าที่นำมาให้นักท่องเที่ยวชื่นชมนี้เคยถูกใช้เป็นพาหนะของกษัตริย์โปรตุเกสในอดีต รวมถึ
ยังเป็น พาหนะจากประเทศต่างๆ ส่งมาเป็นเครื่องราชบรรณาการอีกด้วย
โปร์ตู
ด้วยสภาพภายนอกที่เก่าแบบเก๋ๆ ของโปร์ตูเป็นจุดเริ่มต้นของทุกทริป ในโปรตุเกส นักท่องเที่ยวหลายคนที่เดินทางมาที่นี่ครั้งแรกต่างก็ตกหลุมรักโปร์ตูทันที รวมถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมต่างๆ ของชาวพื้นเมือง ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่อยากจะค้นหาความสวยงมในโปรตุเกสต่อไป
ฟาโร
ฟารู ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากสำหรับการออกสำรวจแถบอัลการ์ฟ ซึ่งภายในเมืองไม่มีชายหาดให้คุณได้ชมทะเลหรือพระอาทิตย์ตกริมทะเล หากแต่คุณต้องเรียกเรือแท็กซี่ เพื่อเดินทางไปยังชายหาดต่างๆ บริเวณใกล้ๆ ซึ่งก็สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และไม่ไกล
ปอร์ติเมา
เมืองนี้ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนรู้สึกว่าจะได้กลายเป็นนักท่องเที่ยวแบบเป็นแพ็กเกจมากที่สุด วิวทิวทัศน์ของที่ปอร์ติเมา มีชายหาดหิน Praia da Rocha ซึ่งเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดและเป็นชายหาดสีทองทอดตัวยาวไปเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด ปอร์ติเมาอยู่ห่างจากฟารูมา ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น การเดินทางมารถมาได้โดยรถไฟ ซึ่งนอกจากแหบ่งท่องเที่ยวแล้ว ยังมีอาหารทะเลที่รสชาติ สด และอร่อยสุดๆด้วย
ซาเกรส
ประมาณสี่สิบกิโลเมตรเกินทางจากปอร์ติเมาก็จะถึงซาเกรส ซึ่งเป็นจุดที่จัดว่าอยู่สุดขอบ ของทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป และมีรถเมล์หลายสายวิ่งรับส่งระหว่างวัน ซึ่งสามารถพาคุณไปไหนมาไหนได้ ซาเกรสเป็นสถานที่สำหรับนักโต้คลื่นและผู้ที่ชอบทะเล หรือกิจกรรมทางน้ำอย่างแท้จริง ซึ่งการได้มาโต้คลื่นที่นี่ อาจจะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อนก็ได้
ลากอส
Lagos ลากอสตั้งอยู่ระหว่างซาเกรสและปอร์ติเมานักท่องเที่ยวสามารถเดินทางอย่างง่าย ลากอสถือว่าค่อนข้างจะอัดแน่นไปด้วยชายหาดสวยๆ และสีสันยามราตรี จึงกลายเป็นที่โปรดปรานของนักท่องเที่ยวหลายๆคน และก็ยังเป็นที่ที่ทำให้ผู้ที่อยากหนีความวุ่นวายในเมือง มาใช้เวลาอยู่ที่ลากอสได้ทั้งหน้าร้อนเลยทีเดียว
มาเดรา
Madeira มาเดราทำหลายคนประหลาดใจมากที่สุด เพราะมาเดราเป็นเกาะ ซึ่งมีฟังชาล Funchal เป็นเมืองหลักของมาเดรามีความเป็นเมืองใหญ่ เมื่อเทียบกับมาตรฐานของความเป็นเกาะ เพียงแค่นั่งรถมุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือ 30 นาที คุณก็จะเข้าไปสู่ใจกลางของป่ากึ่งเขตร้อนที่อยู่ภายใต้การอนุรักษ์ของยูเนสโกที่มีแต่ความสวยงามแล้ว
ลิสบอน
ด้วยความที่เมืองถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาทั้งเจ็ด ทำให้หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ลิสบอนเป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่เซ็กซี่ที่สุด เพราะมีทำเลอยู่ที่ริมแม่น้ำทากัส ทิวทัศน์ที่คุณจะมองเห็นรอบๆ เมืองไม่ว่าจะเป็นเวลาใด ที่นี่ก็จะมีความสวยงามให้เห็นอยู่ตลอดเวลา
ซินทรา
Sintra หรือซินทรา เป็นเมืองบนยอดเขาที่ดูราวกับว่าหลุดออกมาจากเทพนิยาย ใครที่เดินทางมาที่นี่ การได้ทัวร์ระยะสั้นๆ ในหนึ่งวัน จากการเดินทางมาที่ ลิสบอน ตามด้วยปราสาทพีนา เมืองซินทราที่มีความโดดเด่นและดึงดูดความสนใจได้มากที่สุด เป็นสถาปัตยกรรมที่เหมือนอยู่ในความฝัน
เทศกาลสำคัญ ของโปรตุเกส
แม้โปรตุเกสเป็นเมืองที่รับอารยธรรมหรือ วัฒนธรรมหลากหลายเข้ามา แต่ก็ยังคงมีประเพณีดั้งเดิม ที่เป็นของชาวพื้นเมือง ที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งนอกจากจะได้สืบทอดประเพณีโบราณแล้ว ยังสามารถสร้างราบได้ให้กับประเทศได้อีกมากมาย เพราะความโดดเด่นของเทศกาลต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยว ทำให้ผู้คนต่างอยากที่จะมาสัมผัสกับประเทศโปรตุเกสสักครั้ง
เทศกาล Madeira Flower Festival
เทศกาล Madeira Flower Festival จัดได้ว่าเป็นเทศกาลดอกไม้ที่เกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ ของประเทศโปรตุเกสที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยเสน่ห์ของขบวนพาเหรดที่ยิ่งใหญ่ ที่จะเดินตามถนน รวมถึงทุกคนที่มาร่วมงานจะต้องแต่งกายด้วยชุดที่ทำมาจากดอกไม้ด้วย ทำให้มีสีสันอลังการมากมาย ซึ่งแต่ละปีก็จะได้ชมความความของมวลดอกไม้ต่างๆ รวมถึงชุดแฟนซีที่แต่ละคนได้ครีเอทมาเป็นชุดในเทศกาลแต่ละปีอีกด้วย
เทศกาล Agitagueda Art Festival
เทศกาล Agitagueda Art Festival หรือเทศกาล ถนนร่มหลากสี ซึ่งเทศกาลที่ว่านี้ จะจัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี ในเทศกาลจะมีการนำเอาร่มสีสันสดใสมาประดับประดาไปตามถนนสายเล็กๆ ภายในเมืองอากุยดา ประเทศโปรตุเกสดูแล้วสวยงามจริง อากุยดา หรือ อะเกอดา คือเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ในเขตอาไวโร่ ของประเทศโปรตุเกส ซึ่งยังเป็นศูนย์กลางการค้าและอุตสาหกรรมที่สำคัญของภูมิภาค นอกจากนี้ ยังมีการทำไร่องุ่น และอุตสาหกรรมไวน์ที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศโปรตุเกสอีกด้วย
เทศกาลเซา ซูเอา
เทศกาลเซา ชูเอา ของเมืองปอร์โต ในโปรตุเกส ถูกจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนของทุกปี เป็นหนึ่งในเทศกาลที่คึกคักที่สุดของยุโรป เพราะทั้งเมืองจะมีการจุดไฟสว่างไสว และตกแต่งประดับประดาสวยงาม นักท่องเที่ยวที่มาร่วมเทศกาล รวมถึงชาวเมือง มีการกินดื่มกันอย่างสนุกสนาน และหากพบเพศตรงข้ามที่ต้องตาต้องใจ ให้ใช้ค้อนพลาสติกขนาดใหญ่ทุบศีรษะเขาหรือเธอได้ทันที
นอกจากนี้ยังมีเทศกาลงานกระดาษ และเทศกาลอื่นๆ ที่เป็นส่วนสำคัญและเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสกับบรรยากาศต่างๆ ของประเทศโปรตุเกสอีกมากมาย
การเดินทางจากประเทศไทยไปประเทศโปรตุเกส
การเดินทางจากประเทศไทย หรือจากกรุงเทพฯ เพื่อที่จะไปประเทศโปรตุเกส ซึ่งมีสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบิน การเดินทางจากกรุงเทพฯไปโปรตุเกส คือ สายการบิน Finnair (AY) ในราคาประหยัด ซึ่งจะมีโปรโมชั่นมานำเสนอเรื่องตั๋วเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปโปรตุเกส และสายการบินอื่นๆ อยู่ตลอด พร้อมบริการหลังการขาย
สายการบิน Turkish Airlines (TK) มีโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินไปโปรตุเกส ซึ่งเช็คการให้บริการหรือโปรโมชั่นทุกครั้งก่อนจองตั๋วออนไลน์
สิ่งที่ควรเตรียมก่อนการเดินทางไป ประเทศโปรตุเกส
สำหรับผู้เดินทางมาท่องเที่ยวในโปรตุเกส จะต้องมีหนังสือเดินทางที่ยังมีอายุเกิน 6 เดือน และต้องฉีดยาป้องกันโรคต่างๆ ควรเช็คโรคระบาดหรือโรคที่ร้ายแรงก่อนเดินทางเข้าไปประเทศนั้นๆเพราะบางสายการบินต้นทางอาจปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง และหากนักท่องเที่ยวมีโรคประจำตัว และจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปประเทศนี้จริงๆ ก็ให้เตรียมยาที่มีเอกสารกำกับยาเป็นภาษาอังกฤษ หรือมีใบรับรองแพทย์ติดไปด้วย
วัฒนธรรมต่างๆ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศโปรตุเกส ต่างก็มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความโดดเด่นที่ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวได้มากมาย ส่วนสาวคนไหนที่ยังคงตามหา ต้นกำเนิดฝอยทอง ลองแวะไปที่เมือง Aveiro ซึ่งอยู่ทางเหนือของโปรตุเกส ซึ่งนอกจากคุณจะได้ลิ้มรสฝอยทองจากต้นตำรับของเจ้าถิ่นแล้ว ยังมีโอกาสมาท่องเที่ยวแหล่งสำคัญต่างๆ ของโปรตุเกสอีกด้วย