ประเทศเวียดนามเป็นประที่กำลังมีการพัฒนา และเริ่มเปิดกว้างทางการค้า และวัฒนธรรม ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก อยากจะลองมาสัมผัสกับความงามและวิถีชีวิตของประเทศเวียดนามดูสักครั้ง รวมถึงชาวไทยอีกหลายคน ที่เตรียมหาวันหยุดยาวๆ เพื่อเดินทาง มาสัมผัสกับกลิ่นอายของที่นี่ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ถูกยกให้เป็นมรดกโลก ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ กลับมีความงดงาม ทั้งทางชาติและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ อีกมากมาย
ประเทศเวียดนามจัดเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม รวมถึงความงามที่มาจากธรรมชาติหรือภูมิประเทศที่มีความแตกต่างกัน จึงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะทำให้นักท่องเที่ยวอยากจะเดินทางเข้ามาสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงวิถีชีวิตของชาวเวียดนาม ที่เป็นวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่ยังคงหลงเหลือและมีให้เห็นอยู่บ้าง
ลักษณะภูมิประเทศ
ลักษณะภูมิประเทศของเวียดนาม มีลักษณะเป็นรูปตัว S เป็นประเทศที่มีภูเขาสูงมากมาย มีไหล่เขาและหมู่เกาะต่างๆ นับพันเกาะเรียงตั้งแต่อ่าวตังเกี๋ยไปจนถึงอ่าวไทย ลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศของเวียดนามมีความ แตกต่างกันค่อนข้างมาก แบ่งเป็นภาคเหนือ ที่ราบสูง ภาคกลาง ภาคใต้ พื้นที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูก มีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย เหมาะแก่การปลูกชา กาแฟ
การแบ่งเขตการปกครอง
เวียดนาม มีชื่อเป็นทางการคือ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มีเมืองหลวง คือ กรุงฮานอย ส่วนระบอบการปกครองของประเทศเวียดนามเป็นระบอบสังคมนิยม โดยมีพรรคการเมืองเดียวคือพรรคคอมมิวนิสต์ปกครองแบบระบบพรรคเดียว เขตการปกครอง มี 5 นคร (ดานัง ฮานอย ไฮฟอง โฮจิมินห์ เกิ่นเธอ) และมี 59 จังหวัด
ประชากรและวัฒนธรรม
ภาษาที่ชาวเวียดนามใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวันคือ ภาษาเวียดนาม ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และ จีน ในการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ ชาวเวียดนามส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน ,ศาสนาคริสต์ ,ลัทธิขงจื้อและมุสลิม
ชาวเวียดนามมีการผสมผสานด้านวัฒนธรรม จากหลายชนชาติ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งก่อสร้าง หรืออาหารการกิน จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับวัฒนธรรมของจีนมาก สมัยที่ฝรั่งเศสเข้ามาปกครอง เวียดนามก็ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมฝรั่งเศส ทั้งเรื่องตึกสีเหลืองสไตล์โคโลเนียล ที่ดูทันสมัย ฯลฯ
วิถีชีวิตของชาวเวียดนาม มีความเชื่อ ศิลปะ และมีวิถีการดำรงชีวิต รวมถึงประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ ที่ใกล้เคียงกับจีน
รวมไปถึงศาสนาพุทธนิกายมหายานที่สอนเรื่องกรรมดีและกรรมชั่ว ซึ่งชาวเวียดนามส่วนหนึ่งยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมสืบทอดมาจน ถึงปัจจุบัน
สภาพภูมิอากาศของเวียดนาม
เพราะประเทศเวียดนามมีลักษณะของภูมิประเทศ เป็นแบบคาบสมุทร ทำให้มีสภาพอากาศที่หลากหลาย ซึ่งอากาศ ประเทศเวียดนามแบ่งออกเป็น 4 ฤดู
ฤดูใบไม้ผลิ จะอยู่ในช่วงเดือน มีนาคม ถึงเดือนเมษายน มีฝนตกปรอยๆ และมีความชื้นสูง
ฤดูร้อน จะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม อากาศจะร้อนและมีฝน ซึ่งเดือนที่ร้อนที่สุดคือ มิถุนายน
ฤดูใบไม้ร่วง จะอยู่ในช่วงเดือนกันยายน ถึงเดือนพฤศจิกายน
ฤดูหนาว จะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ เดือนที่หนาวเย็นที่สุดคือ มกราคม
โซนเวลาของเวียดนาม
ประเทศไทยกับประเทศเวียดนาม เนื่องจากประเทศใกล้กัน ทำให้โซนเวลาไม่ต่างกันมาก ซึ่งส่วนใหญ่ในเวียดนามเวลาจะเท่าๆหรือใกล้เคียงกับของไทย
ค่าเงินที่ใช้ในเวียดนาม
สกุลเงินของเวียดนาม ใช้สกุลเงิน ด่อง ซึ่งธนบัตรของเวียดนามมีจำนวนเงินค่อนข้างมาก ซึ่งสูงสุดคือ 500 ด่อง ส่วนการใช้จ่ายซื้อของแต่ละครั้งอาจจะถึงแสนด่อง แต่ถ้าเทียบกับเงินไทยแล้ว ใช้จ่ายเพียงไม่กี่ร้อยเท่านั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแลกเงินจากเมืองไทยไปก็ได้ หรือจะไปแลกเป็นเงินดอลล่าห์สหรัฐ หรือเงินด่อง ที่ประเทศเวียดนามเลยก็ได้เช่นกัน
ระบบไฟฟ้าใน ประเทศเวียดนาม
กระแสไฟฟ้าของประเทศเวียดนาม จะเป็นลักษณะเดียวกับของเมืองไทย คือ 220 โวลต์ ซึ่งหากคุณไปเที่ยวประเทศเวียดนาม ก็สามารถนำอุปกรณ์ไฟฟ้าไปใช้ที่เวียดนามได้
การใช้โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตสำหรับนักท่องเที่ยว
รหัสโทรศัพท์ของประเทศเวียดนามคือ +84 ส่วนคนที่ไปเวียดนามแล้วต้องการใช้อินเตอร์เน็ตไม่ว่าจะเป็นการติดต่อธุรกิจ อีเมล์หรือ โทรศัพท์ผ่านเน็ต คุยกับครอบครัว หรือสำหรับคนที่ติดโซเชียล ตามโรงแรมจะมีเน็ต ซึ่งส่วนใหญ่โรงแรมระดับสามดาว ก็ปล่อยไวไฟให้นักท่องเที่ยวฟรี แต่จะแรงไปถึงห้องพัก หรือได้เฉพาะที่ล็อบบี้ต้องสอบถามทางโรงแรมที่คุณพักอีกครั้ง ส่วนหรูหน่อยก็จะมีอินเทอร์เน็ตทุกมุมของโรงแรม เวียดนามมี WIFI มากมาย เพราะตามปกติโรงแรมจะมีการปล่อยไวไฟฟรีเกือบทุกแห่ง แต่ก็จะมีแบบฟรีและแบบเสียตังค์
ส่วนใครที่อยากได้ซิมเน็ตใส่มือถือ มาที่ช้อปของ Vinaphone เป็นเน็ตสามจีค่อนข้างเร็ว คือเมื่อคุณซื้อซิม ก็จะมีเงินเหลือในซิมให้ใช้โทรศัพท์ได้นิดหน่อย และสามารถใช้เน็ต 3G ได้อีกนิดหน่อยตามจำนวนเงินที่มีเหลือในซิม หากเงินหมดก็ซื้อบัตรเติมเงิน หรือจะเลือกแพ็คเกจเสริมแบบ 500MB, 1.5GB และ 3.5GB ซึ่งสามารถหาซื้อบัตรเติมเงิน เมื่อเติมเงินเสร็จแล้ว โทรกลับไปหาที่ศูนย์ เขาจะทำการเปลี่ยนแพ็คเกจให้ หรือวิธีที่ง่ายที่สุด คือ หาร้านช็อปของ Vinaphone ให้เจอและให้ร้านจัดการให้
นักท่องเที่ยวสามารถพกพาโน๊ตบุคไปที่ประเทศเวียดนามได้ไม่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ใดๆ เพราะที่เวียดนามมีของแต่ละชนิด ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งนั้น ตามปกติแล้วอินเทอร์เน็ตมีให้ใช้แทบจะทุกโรงแรม บางแห่งอาจจะช้า แต่ก็พอใช้ได้ ถ้าหากคุณไม่กลัวหรือติดปัญหาเรื่องกลัวไม่มีฟอนท์ไทยก็สามารถนำโน๊ตบุ๊คไปได้
แม้หลายคนจะบ่นว่าการเปิดบริการโรมมิ่งเมื่อไปต่างประเทศจะแพง หากแต่คุณลองตรวจสอบให้แน่ชัดดูว่าหากต้องไปต่างแดน จะต้องทำอย่างไร เอาโทรศัพท์ที่ใช้อยู่ไปใช้ที่นั่นได้หรือไม่ และจะต้องปิดบริการต่างๆ อย่างข่าวสารจากทางศูนย์ก่อน เพราะหากมีการส่งข้อความไป อาจจะมีการเสียเงินมากกว่าปกติก็ได้
สินค้าและของฝากจากเวียดนาม
แม้จะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ที่ใกล้กับไทยมากอีกประเทศหนึ่ง แต่หากได้มีโอกาสไปเยือนถิ่นเวียดนามแล้ว ก็อย่าลืมแวะซื้อของฝากที่มีชื่อ โดยเฉพาะใครที่ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่โฮจิมินห์ ของขึ้นชื่อที่จะต้องซื้อเป็นของฝากจากเวียดนาม ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าหัตถกรรมที่เป็นงานฝีมือพื้นบ้านทุกชนิด อย่างโนนลาหรือหมวกเวียดนามที่ทำจากใบลาน หรือเสื้อผ้า เครื่องเขิน ผ้าไหม เครื่องเรือนประดับไข่มุก และภาพเขียนฯลฯ ราคาต่อรองกันได้
โฮจิมินห์ซิตี้ เป็นแหล่งชอปปิ้งที่มีหลายที่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปหาซื้อของที่ระลึกจากตลาดบิ๋นแถงห์ และตลาดบินห์เถ สินค้าที่นิยมซื้อเป็นของฝากก็คือผ้าไหม กาแฟ ,งาช้างแกะสลัก ผ้าลินิน,เครื่องแก้ว ,ผ้าปักลวดลาย ,เครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ไผ่ ,ผ้าคลุมเตียง ,เรือสำเภาจำลอง ,หน้ากาก สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกฯลฯ หรือแม้แต่อ๋าวหญ๋าย ซึ่งเป็นชุดประจำชาติของเวียดนาม
อาหารที่ขึ้นชื่อของเวียดนาม
เสน่ห์ของประเทศเวียดนามอีกอย่างหนึ่งนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมต่างๆ ก็คือ อาหารที่ขึ้นชื่อของเวียดนาม ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ทำให้อาหารเวียดนามเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้นักท่องเที่ยวติดใจในรสชาติและอยากจะที่จะเดินทางมาลิ้มลอง รสชาติอาหารแบบฉบับต้นตำหรับนั่นเอง
แหนมเนือง หรือ ปอเปี๊ยะ
อาหารเวียดนาม ที่ขึ้นชื่อมาก ใครไปถึงก็ต้องสั่ง อย่าง แหนมเนือง หรือปอเปี๊ยะสด หรือทอด ที่เป็นอาหารยอดนิยมของเวียดนาม ถือเป็นหนึ่งในอาหารพื้นเมืองที่ฮอทที่สุด ซึ่งจะมีแผ่นแป้ง นำมาห่อกินรวมกับ หมู ไก่ หรือหมูยอ แกล้มกับผัก สมุนไพรนานาชนิด เช่น ผักกาดหอม สะระแหน่ เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มหวาน
เฝอ
เฝอ เป็นก๋วยเตี๋ยวของชาวเวียดนามที่มีการพัฒนามาจากการทำก๋วยเตี๋ยวของจีน มีความต่างกันที่เส้น น้ำซุป และเครื่องเคียง หรือบางครั้งก็เรียกว่าเป็นก๋วยจั๊บเวียดนาม อีกหนึ่งความนิยมมากที่สุดในอาหารเวียดนาม สำหรับมื้อเช้า ส่วนใหญ่เป็นขนมจีนหมูยอ หรือจะเป็น ขนมปังฝรั่งเศสก็ทำให้อิ่มท้องได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมี ขนมเบื้องญวน และ ข้าวเกรียบปากหม้อญวน ฯลฯ ซึ่งอาหารแต่ละอย่างมีรสชาติอร่อย ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนติดใจอีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเวียดนาม
เพราะประเทศเวียดนาม มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และเป็นอารยธรรมเก่าแก่มากมาย บางแห่งถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลก ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดความสนใจที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสกับบรรยากาศและสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศนี้ได้
ปราสาทหมีเซิน
ปราสาทหมีเซิน เป็นสิ่งก่อสร้างที่ยังคงหลงเหลือมาจาก อณาจักจามปา สมัยก่อนมีสิ่งก่อสร้างที่เป็นสถานที่โบราณอยู่กว่า 70 หลัง แต่ถูกระเบิดและเกิดการพังทลายในช่วงสงครามเวียดนาม ปัจจุบันเหลือเพียง 22 แห่งเท่านั้น แต่ อณาจักหมีเซิน ในปัจจุบัน เป็นสถาปัตยกรรมของ ฮินดู ที่มีอายุเก่าแก่และสมบูรณ์มากที่สุดใน อินโดจีน และถูกแวดล้อมไปด้วยป่าดงดิบ ด้วยความเก่าแก่แต่ก็ทำให้นักท่องเที่ยวเล็งเห็นความสวยงาม และมักจะแวะเวียนมาสัมผัสกับที่แห่งนี้เสมอที่สำคัญปราสาทหมีเซินยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
อุทยานแห่งชาติ Phong Nha Ke Bang
ด้วยความโดดเด่นทางธรรมชาติและยังได้รับขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลก ทำให้ที่นี่เป็นที่สนใจของเหล่าบรรดา นักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศเวียดนาม ซึ่งถือว่ามีความเก่าแก่ที่สุดในเอเชีย และภายในอุทยานยังมีถ้ำขนาดยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะมี กว่าสามร้อยถ้ำ ที่สำคัญยังมีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่าง ลำธารใต้ดิน หรือ หินย้อย และนักท่องเที่ยวยังจะได้ชมสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธ์อีกด้วย
ทะเลทรายหมุยเน่
ภูเขาทรายสองสี หรือทะเลทรายสองสีที่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสกับบรรยากาศสวยงาม คล้ายทะเลทราย เพราะมีภูเขาทรายขนาดใหญ่ อยู่ติดกับทะเล ทำให้ที่นี่มีทั้งแดด และลมที่แรง ที่นี่ยังมีร้านอาหารเล็กๆ เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตลอดเวลา หมุยเน่ เป็นทะเลทรายสีขาว และทะเลทรายแดง ซึ่งนักท่องเที่ยวสนใจที่จะมาถ่ายรูปฝั่งสีแดงมากกว่า เพราะสวยงามและมีความโดดเด่นกว่า หรือจะปิดท้ายกับความสนุกแบบเด็กๆ ด้วยการเล่นกระดานเลื่อนบนผืนทะเลเทราย ซึ่งต้องเลื่อนจากบนเนินทรายสูง ลงมาพื้นที่ด้านล่าง
เมือง ฮอยอัน
ฮอยอัน เป็นเมืองเก่า ที่มีขนาดเล็ก ที่นี่นักท่องเที่ยว จะได้เห็นภาพวิถีชาวบ้าน ที่ยังใช้ชีวิตแนวเดิมๆเพราะมีการปั่นจักรยาน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถปั่นจักรยานรอบเมืองนี้ได้ เพราะเป็นเมืองเล็กๆ ภายในเมือง ต่างก็มีนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงและบอกเล่าเรื่องราวรวมถึงประวัติศาสตร์และความเป็นมา ส่วนการดีไซน์ของสมัยก่อนถือว่าเป็นการรวมเอาวัฒนธรรมหลากหลายมาผสมผสานอย่างอาคารบางตึก ที่สะท้อนให้เห็นถึงการตกแต่งของตะวันออก และตะวันตก มีสะพานข้ามคลอง ด้วยการดีไซน์ คล้ายกับแบบประเทศญี่ปุ่น ทำให้เมืองฮานอยถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลก อีกด้วย
อ่าวฮาลอง
ยูเนสโกยกย่องให้อ่าวฮาลองเป็นมรดกโลก เพราะถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและยังคงความสมบูรณ์ของสัตว์นานาพันธุ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพ อ่าวนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม ซึ่งความพิเศษที่สะดุดตาและจุดเด่นของอ่าวฮาลองคือ มีเกาะหินปูนโผล่ขึ้นกระจาย ๆ ทั่วอ่าว โดยมีบรรยากาศที่สวยงามเกินจริง เพราะมีแสงและ สี ที่ลงตัวอย่างสวยงาม
อุโมงค์กู๋จี
อุโมงค์กู๋จีถูกสร้างขึ้นให้มีหลายชั้น ซึ่งแต่ละชั้นจะมีระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพ เพื่อความอยู่รอดของทหาร อุโมงค์กู๋จี ใช้เป็นที่หลบภัยจากระเบิด และเป็นที่สำหรับประชุมของกองของกำลังเวียดกงในสมัยที่รบกับประเทศสหรัฐอเมริกา ภายในอุโมงค์จะมีโรงพยาบาล ห้องประชุม รวมถึงห้องพัก นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่จะได้รับชมหนังสั้นที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามเวียดนามก่อน เพื่อจะได้เข้าใจความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ได้ง่ายขึ้น
แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่การเดินทางมาเที่ยวประเทศเวียดนามก็จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง เพราะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง ซึ่งรอให้นักท่องเที่ยว ให้มาค้นหาความงาม ที่นี่อยู่ทุกช่วงเวลา
เทศกาลสำคัญ ของเวียดนาม
ประเพณีตรุษญวน
ถือเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุด เพราะการเฉลิมฉลองปีใหม่ตรุษญวนถือเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายและมักจะมีการเฉลิมฉลองโดยชาวเวียดนาม ซึ่งประเพณีตรุษเวียดนาม หรือปีใหม่ของชาวเวียดนาม มีลักษณะคล้ายกับประเพณีตรุษจีน เพราะในอดีตเวียดนามเคยตกเป็นเมืองขึ้นของจีน ทำให้มีวัฒนธรรมทางความเชื่อและการดำรงชีวิต รวมถึงการใช้ภาษาต่างๆ ก็ได้รับอิทธิพลจากจีนซึ่งวันตรุษญวนหรือวันขั้นปีใหม่เวียดนามจะตรงกับวันที่ 1 เดือน 1 หรือตรงกับวันตรุษจีนเช่นกัน
เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง
ถือเป็นวันไหว้พระจันทร์ของขาวเวียดนาม หรือที่เรียกว่า เต๊ดจุงทู ซึ่งเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง ตรงกับวันขึ้น 15ค่ำ เดือน 8 อยู่ในช่วงเดือนกันยายน ในเทศกาลนี้ชาวเวียดนามจะมีการจัดประกวดขนมแบ๋ญจุงทู หรือ ขนมไหว้พระจันทร์ รูปร่างกลม โดยมีผิวหน้าประดับลวดลายสวยงาม ใส่ไส้ถั่วและผลไม้และในแต่ละบ้านจะมีโคมไฟประดับเพื่อเฉลิมฉลอง รวมถึงมีขบวนแห่เชิดสิงโตและมังกร เด็กๆสามารถร่วมร้องเพลงเต้นรำไปด้วย
เต็ดเหวียนดานเทศกาล
ส่วนใหญ่ชาวเวียดนามจะเฉลิมฉลองเทศกาลต่างๆ 3 ถึง 7 วัน ติดต่อกัน โดยมีเทศกาลทางศาสนาที่สำคัญคือเต็ดเหวียนดาน หมายความว่า เป็นเทศกาลแห่งรุ่งอรุณแรกของปี เทศกาลเต็ด จะเริ่มต้นขึ้น 1 สัปดาห์ก่อนจะมีวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองเทศการตรุษญวน ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 เดือน 12 โดยวันนี้จะมีการไหว้เทพเจ้าแห่งเตาไฟ ซึ่งเทพเจ้าเตาเป็นเทพเจ้าที่คอยสอดส่องดูแลความเรียบร้อยและความเป็นไปทุกอย่างภายในบ้าน รวมถึงการเซ่นไหว้เทพเจ้าเพื่อส่งเทพเจ้าขึ้นสวรรค์และ ในพิธีจะมีการไหว้ปลาคราฟด้วย ซึ่งตามความเชื่อก็คือเทพเจ้าเตาจะขึ้นสวรรค์โดยขี่ปลาคราฟ เมื่อเสร็จพิธีก็จะนำปลาคราฟไปปล่อยในแม่น้ำเพราะเชื่อว่าปลาคราฟจะแปลงร่างเป็นมังกรพาเทพเจ้าขึ้นสู่สวรรค์ หลังจากนั้นก็จะมีการทำความสะอาดบ้านเรือน พร้อมทั้งการประดับตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษญวนที่จะมาถึง
การเดินทางจากประเทศไทยไปประเทศเวียดนาม
การขอวีซ่าของนักท่องเที่ยวที่ถือหนังสือเดินทางจากประเทศไทย ซึ่งหากเดินทางไม่เกิน 30 วัน จึงไม่มีความจำเป็น ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศเวียดนามอีก ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถอยู่ในประเทศเวียดนามได้สูงสุดนานถึง 30 วัน ส่วนในกรณีที่นักท่อง เที่ยว ถือหนังสือเดินทางต่างชาติหรือมีหนังสือเดินทางที่มีวันหมดอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือนนับจากวันที่เดินทางจึงจะใช้ได้
การเดินทางจากกรุงเทพไปเวียดนาม สามารถเดินทางโดยทางเครื่องบิน เพื่อเข้าสู่ประเทศเวียดนาม เป็นวิธีที่สะดวกสบายที่สุด ซึ่งประเทศเวียดนามมีท่าอากาศยานนานาชาติที่สำคัญ 3 แห่ง คือ ท่าอากาศยานนานาชาติโนยบ่าย,ท่าอากาศยาน Noi Bai และในกรุงฮานอย มีท่าอากาศยานนานาชาติเติ่นเซินเญิ๊ตที่ นครโฮจิมินห์ และท่าอากาศยานนานาชาติดานังที่นครดานัง
เดินทางจากไทย ด้วยรถยนต์
การเดินทางจากกรุงเทพฯไปประเทศเวียดนามเป็นการใช้บริการรถโดยสารประจำ โดยเดินทางจากจังหวัดหนองคาย เพื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย - ลาว ไปยังนครเวียงจันทน์ ซึ่งจะมีรถโดยสารจากนครเวียงจันทน์ไปยังกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามอีกด้วย ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกเดินทางกัน เพราะถือว่าไม่ไกลจากประเทศไทยเท่าใดนัก
การใช้บริการของสายการบินไทย
อาจเลือกสายการบินไทยแอร์เอเชีย และสายการบินเวียดนามที่มีบริการเที่ยวบินสู่กรุงฮานอยโดยตรงเลยก็ได้
สิ่งที่ควรเตรียมก่อนการเดินทางไป ประเทศเวียดนาม
แม้ประเทศเวียดนามจะอยู่ใกล้กับบ้านเราเพียงใด แต่ก็ใช่ว่าภูมิอากาศจะไม่แตกต่างกัน ซึ่งการเดินทางไปประเทศเวียดนามควรเช็คสภาพของอากาศ และฤดูของประเทศเวียดนามก่อนเดินทาง ซึ่งการเตรียมตัวเสื้อผ้าจะต้องเตรียมให้เหมาะสมกับอุณหภูมิอากาศที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย
อุปกรณ์ถ่ายรูป
หากใครที่ยังคงใช้กล้องฟิล์ม ก็ให้เตรียมฟิล์มให้พอ หรือใช้กล้องดิจิตัล ก็ควรเตรียมเมมโมรีไปให้พร้อม แบตเตอรี่สำรอง ซึ่งจะเป็นการดีหากคุณเตรียมพร้อมสำหรับกล้องถ่ายรูปด้วยการเตรียมให้เพียงพอกับการใช้งาน อย่าลืมที่ชาร์ทแบตเตอรี่กล้องถ่ายรูป
ยารักษาโรค
และอย่าลืมสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรที่จะเตรียมยาประจำตัวไปให้พร้อม และควรเตรียมใบกำกับหรือใบรับรองการใช้ยาจากแพทย์ไปด้วย
อากาศ
การที่คุณเช็คภูมิอากาศที่ประเทศเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นอากาศร้อนหรือมีแสงแดดส่องอย่างรุนแรง ควรเตรียม อุปกรณ์กันแดด ต่างๆ อย่างแว่นตากันแดด , หมวก หรือร่ม และเสื้อแขนยาวรวมถึงครีมกันแดดไปด้วยเพราะที่ประเทศเวียดนามอาจมีอากาศหนาวชื้นถ้าอยู่บนเขาและเตรียมรองเท้าที่สวมใส่สบาย พร้อมถุงเท้า
การที่หลายคนคาดหวังจะเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศเพื่อนบ้าน แม้จะอยู่ใกล้อย่างไร ก็ไม่ควรประมาทเพราะหากคุณอยากจะท่องเที่ยวให้สนุก จะต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อม ทั้งร่างกาย และจิตใจ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวมีความสุขและเก็บเกี่ยวความประทับใจได้อย่างมิรู้ลืม