วันที่ 1 
กรุงเทพฯ(ดอนเมือง) - เมืองกาฐมัณฑุ - เทือกเขานากาโก๊ต (Nagarkot  Mountain)
07.30 น. 
พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคาร 1(ผู้โดยสายขาออก) ประตู 7 เคาน์เตอร์สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระ
11.15 น. 	 
เดินทางสู่ เมืองกาฐมัณฑุ โดยสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL220 
รับประทานอาหารกลางวันบนเครื่อง
12.45 น. 
ถึงท่าอากาศยานตรีภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว (เวลาที่เนปาล ช้าประเทศไทย  1  ชั่วโมง 15 นาที) เป็นประเทศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเทือกเขาหิมาลัย และถูกห้อมล้อมด้วยภูเขาสูงมากมาย   นำคณะผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตัว นครกาฐมัณฑุ  และให้ท่านได้เพลิดเพลินกับความงามของสองข้างทางในเมืองหลวงของเนปาล 
นำท่านเดินทางสู่ เทือกเขานากาโก๊ต (Nagarkot  Mountain)  ซึ่งตั้งอยู่บนยอดขอบกระทะของหุบเขากาฐมันฑุ บนพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง  2,200  เมตร ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ซึ่งท่านจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงาม และแสนจะโรแมนติกของเทือกเขาหิมาลัยตลอดแนวตั้งแต่ฝั่งตะวันออกจรดฝั่งตะวันตก  ซึ่งมีแนวทิวเขายาวนับพันกิโลเมตร  โดยในวันที่อากาศปลอดโปร่ง  ท่านอาจจะได้เห็นภาพที่สวยงามของ “ยอดเขา เอเวอร์เรส”  ได้อย่างชัดเจน  ถึงที่พักเข้าที่พักเหนือยอดเขาชมยามเย็นอันสวยงามเมื่อสีสันของท้องฟ้าสีครามเข้มของฤดูหนาวค่อยเปลี่ยนสีสันไปเรื่อยๆ ทอแสงเรืองอร่ามไปท่ามกลางเทือกเขาสูงที่รายรอบนากากอต สลับซับซ้อนสวยงามเหมือนยืนอยู่กลางมงกุฏเพชรตัดด้วยสีขาวของหิมะที่ยังคงเห็นเลือนลางแม้ยามรัตติกาลจะเริ่มคืบคลานเข้ามา
ค่ำ 
รับประทานอาหารค่ำที่ ภัตตาคาร ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะสดชื่นและสบาย ท่านที่มีอารมณ์อันสุนทรีย์คืนนี้ไม่ควรพลาดโอกาสชมดาวเต็มท้องฟ้า เหนือยอดเขานากากอตที่พักที่สูงที่สุดในทริปนี้(สูง 2,164 เมตร)
ที่พัก 
Niva Niwa Lodge หรือเทียบเท่า
วันที่ 2 
บักตาปูร์ - วิหารนาตโปลา - วัดปศุปฏินารถ - ตลาดทาเมล
05.00 น. 
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าอันสดชื่น  รับแสงแรกแห่งดวงอาทิตย์  ในวันที่อากาศดีท่านจะได้ชมความงดงามที่สุดจะบรรยายเมื่อแสงสีทองดังเส้นไหมค่อยทอแสงพ้นขอบเส้นเทือกเขาหิมาลัยอันสูงชันโดยรอบสุ่ท้องฟ้า ทอแสงสี้รุ้งกระทบกับแนวเส้นหิมะเหนือเทือกเขาสูงเกิดประกายสีรุ้งตลอดแนวเทือกเขาสวยงามากเพียงไม่นานเทือกเขาหิมาลัยทั้งสายก็แปรเปลี่ยนเหมือนดังมีใครนำผ้าทองผืนใหญ่มาปกคลุมไว้เกือบทั้งแนวเขา  และค่อย ๆ แปรเปลี่ยนทีละน้อยเห็นปรกายสีขาวสดใสของหิมะที่ทับถมอยู่  หากท่านมีโอกาสท่านอาจจะได้ชมยอดเขาเอเวอร์เรสแม้จะเพียงจุดเล็ก ๆ แต่ก็ภาคภูมิใจที่ได้มาชม***(ที่นี่ถ้าท้องฟ้าสดในท่านจะสามารถเห็นยอดของเทือกเขาหิมาลัยอันประกอบไปด้วย ยอดเขา 5 ยอด จากจำนวนยอดเขา 10 ยอดที่สูงที่ในโลกได้แก่ ภูเขา เอเวอร์เรสท์ (EVEREST) โลดเส ( LHOTSE) โชยู( CHO YU) มาลาคู ( MAKALA) และ มานาสรู (MAMASLU) )
เช้า 
รับประทานอาหารเช้าที่  ห้องอาหารของโรงแรม  
นำท่านเดินทางกลับเข้าสู่เมือง กาฐมัณฑุ อีกครั้งหนึ่งระหว่างทางจะนำท่านชม  “เมืองบักตาปูร์” นครหลวงแห่งที่  2 ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนกับองค์กรสหประชาชาติเพื่อเป็นมรดกโลก เมืองนี้มีความงามด้านไม้แกะสลัก งานไม้ที่ขึ้นชื่อคือรูปสลักหน้าต่างเป็นรูปนกยูง ซึ่งตัวนกจะแกะให้นูนสูงจากตัวเนื้อไม้และโดยรอบยังฉลุลวดลวยต่าง ๆ เอาว้อีกด้วย  
นำท่านสู่ย่าน เขตเมืองเก่านำท่านชมพระราชวังโบราณ แห่งเมืองบักตาปูร์ ที่ได้สร้างตามแบบศิลปะแบเนปาลขนานแท้ ประทับใจไปกับความสวยโดเด่นของ ประตูทองคำ หน้าต่าง 55 พระแกลในแต่ละบานฉลุลวดลายโปร่งตามแบบอินเดีย  ตัวพระราชวังแห่งนี้ได้ถูกทำลายเมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี  1934  ต่อมาได้ถูกบูรณะขึ้นด้วยเงินทุนจากทาง  UNESCO  ตรงขอบประตูทางเข้าของพระราชวังมีการนำแผ่นทองคำมาห่อหุ้ม จนได้สมญานามว่าประตูทองคำ แผ่นทองคำนี้มีการจำหลักรูปเทพเจ้าและของศักดิ์สิทธิ์  เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ผู้ที่เดินเข้าออก  นำท่านเดินเข้าไปชมด้านในของตัวอาคาร  ท่านจะพบประตูอีกบานหนึ่งซึ่งบนซุ้มประตูมีเครื่องและแกะสลักเป็นลวดลายอ่อนช้อยวิจิตรบรรจง ซึ่งมีอยู่เพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น   สืบเนื่องจากเมื่อช่างผู้ทำได้ดสร็จแล้วพระราชาจะมีพระบัญชาให้ตัดมือทั้ง  2  ข้างทิ้ง  และควักนัยต์ตาทั้ง  2  ของช่างผู้นั้นออก  ถัดจากที่แห่งนี้ไม่ไกลจะมีห้องสรง  ซึ่งเป็นสระน้ำขนาดใหญ่  ซึ่งมีชื่อเรียกว่า  “สระนาคบากศก์”  ด้านบนจะมีพญานาคใหญ่แผ่เบี้ยออกเพื่อปกปักรักษาและอำนวยพรให้กับพระมหากษัตริย์  น้ำในสระนี้เล่ากันว่าเมื่อถึงฤดูหนาว  น้ำในสระจะอุ่น  เมื่อเข้าฤดูร้อนน้ำในสระจะเย็น
นำท่านเดินออกจากตัวพระราชวังเพื่อชมความยิ่งใหญ่ของ วิหารนาตโปลา  ซึ่งมีความสูงถึง  98 ฟุต  หรือประมาณ  30  เมตร  ถือได้ว่าเป็นวิหารที่สูงที่สุดในประทเศเนปาล  แต่ละชั้นของบันได  จะมีรูปปั้นของเทพต่าง ๆ อาทิ  พญาครุฑ, ยักษ์,  คนทัณฑ์  เป็นต้น  หากพอมีเวลานำท่านไปชม  หมู่บ้านช่างปั้นหม้อ  เพราะนอกจากเมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องงานไม้แล้วเรื่องงานปั้นก็งดงามไม่แพ้กัน ให้ท่านได้ชมวัดพระแม่อุมาเทวี  ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามที่สุดในเนปาล
เที่ยง 
รับประทานอาหารกลางวันที่ ภัตตาคาร
บ่าย 
นำท่านเดินทางสู่ ทางศาสนสถานฮินดูสำคัญวัดหนึ่ง ซึ่งชาวฮินดูที่พำนักในประเทศต่าง ๆ ต้องถือโอกาสสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะมากราบนมัสการ เพื่อขอพร ณ ที่แห่งนี้เพราะเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก วัดนั้นคือ วัดปศุปฏินาถ (Pasupatinath) ทั้งนี้เนื่อง ด้วยเราซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชนจึงไม่อาจได้รับอนุญาตให้เข้าชมความงามภายในได้ แต่เราสามารถจะได้ชมความงามบางส่วนจากภายนอก อีกทั้งท่านจะได้ชมพิธีกรรมที่ประกอบอยู่ภายนอกสถานที่แห่งนี้ 
จากนั้นนำท่านสู่ย่าน “ตลาดทาเมล” แหล่งช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองนานาชนิดที่ใหญ่ที่สุดขงนครหลวง  อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้านานาชนิด  เป็นของฝากที่ระลึกตามอัธยาศัย  เช่น  ลูกปัด, สร้อยคอที่ร้อยจากหินฒ ผ้าทอพื้นเมือง, พรมจากขนจามรี, ตุ๊กตาไม้แกะสลัก, เครื่องเขิน ฯลฯ  หรือหากท่านชื่นชอบสินค้าเบรนด์เนมเชิญท่านช้อปปิ้งย่าน NEW ROAD ที่มีสินค้าชั้นนำของแท้จากทั่วทุกมุมโลกจำหน่ายในราคาสุดพิเศษ  อาทิ  ผ้าตัดสูทจากอิตาลี, อังกฤษ  และญี่ปุ่น กระเป๋าเดินทางชั้นนำอง  Samsonite, Delsey  แว่นตาจาก Dunhill,  Roadastock  ปากกาดูปองต์, มองบลังต์, น้ำหอม และเครื่องสำอางชั้นนำ  จากยุโรป ฯลฯ
ค่ำ 
รับประทานอาหารค่ำที่ ภัตตาคาร พร้อมทั้งชม การแสดงพื้นเมืองที่สวยงาม เป็นการเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารค่ำของท่าน
ที่พัก 
 Himalaya hotel หรือเทียบเท่า
 
         
     วันที่ 3 
โพธินาถ - วัดสวยมภูนารถ - จัตตุรัสดูบาร์
หมายเหตุ 
โปรแกรมแนะนำ :  สัมผัสเทือกเขาหิมาลัยและยอดเขาเอเวอร์เรสต์อย่างใกล้ชิด ด้วยการขึ้นเครื่องบินชมเขาสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด (Mountain sightseeing flight) เมื่อท่านได้มาเยือนประเทศเนปาลคุณจะมีโอกาสได้ขึ้นไปบนจุดสูงที่สุดและตระการตาที่สุดในโลก (จ่ายเพิ่มท่านละ 160-200 USD)
เช้า 
รับประทานอาหารเช้าที่ โรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าชม วัดสวยมภูนารถ (SWAYAMBHUNATH) ซึ่งเป็นวัดทางพุทธศาสนาที่สำคัญ ตั้งอยู่บนยอดเขาทางทิศตะวันตกของเมืงอกาฐมัณฑุ โดยมีอายุมากกว่า 2,500 ปีมาแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า วัดลิง (MONKEY TEMPLE) เพราะทั่วบริเวณวัดแห่งนี้เต็มไปด้วยลิงซึ่งจะลงมาเก็บเมล็ดข้าวที่ชาวเนปาลนำมาถวายที่วัดเป็นอาหารนมัสการเจดีย์สวยมภูนารท ซึ่งถือว่าเจดีย์นี้เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเนปาล ที่ตัวเจดีย์ตรงบริเวณยอดฐานจะมีรูปดวงตาของพระพุทธเจ้า ชาวเนปาลมีความเชื่อที่ว่าพระเนตรของพระพุทธเจ้าจะยังคอยมองดูโลกมนุษย์และมีจุดเล็กๆตรงกลางระหว่างคิ้วชาวเนปาล เชื่อว่าเป็นดวงตาที่ 3 ซึ่งหมายถึงดวงตาแห่งธรรม และเครื่องหมายที่ตรงจมูกคือเลข 1 โดยในเนปาลคือสัญลักษณ์ของความเป็นหนึ่งหรือเอกภาพ
จากนั้นนำท่านนมัสการ วัดพุทธนารถ (Bouddhanat) วัดนี้มีเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล ตั้งอยู่ในหมู่บ้านของชาวธิเบตที่ได้อพยพมา ภายนอกวัดโดยเฉพาะตามบ้านเรือนต่าง ๆ จะประดับประดาด้วยธงทิวสีต่าง ๆ เพื่อเป็นการบูชาธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ และอากาศ ในผืนผ้าจะลงอักขระ ซึ่งเชื่อกันว่าเมื่อลมพัด 1 ครั้ง เท่ากันเราได้สวดมนต์  1  จบ  และมนต์ที่สวดนั้น สุดยอดของ  84,000 พระธรรมขรรค์ ภายในวัดนอกจากมีพระมหาเจดีย์ประดิษฐานอยู่กลางวัดแล้วยังมีพระอารามที่ประดิษฐานพระอวโลกิเตศวรหรือเจ้าแม่กวนอิมปางพันมือองค์ใหญ่อยู่ภายใน  อารามนี้องค์ดาไลลามะ  เคยเสร็จมาประทับเมื่อครั้งลี้ภัยมาจากธิเบตก่อนที่จะไปประทับเป็นการถาวรที่เมืองดาลัมศาลา ในประทเศอินเดีย  หากท่านใดประสงค์จะสวดมนต์  84,000  พระธรรมขรรค์แบบทางลัด  ก็เชิญท่านร่วมหมุนกงล้อยักษ์โดยท่านต้องเดินตามเข็มนาฬิกาเป็นจำนวน  3  รอบ  ภายในกงล้อได้มีการบรรจุมนตรา  84,000  พระธรรมขรรค์ไว้ภายในเช่นกัน
เที่ยง 
รับประทานอาหารกลางวันที่ ภัตตาคาร
บ่าย 
นำท่านเดินทางสู่ “เมืองปาทัน(Patan)” เมืองที่มีความงดงามจนได้สมญานามว่า ลลิตปุร์ เมืองนี้ขึ้นชื่อทางด้านทองเหลือง ดินแดนแห่งศิลปะอันวิจิตร 1 ใน 4 นครโบราณแห่งหุบเขากาฐมัณฑุ 
เมืองนี้มีวัดที่สำคัญอยู่ 2 แห่ง วัดแรก คราบาฮ์ (Kwa Bahal)  หรือวิหารทองคำ – วิหารเงิน  วิหารเป็นวัดทางพุทธ ศาสนา หลังคามีตราประดับอย่างสวยงามด้วยแผ่นทองคำติดเป็นทางยาวจากยอดหลังคาจรดพื้น บนแผ่นทองคำยังการแกะสลักลวดลายให้ดูสวยงดงามดูแปลกตาแผ่นทองนี้เชื่อว่า ทอดลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึง รองรับพระบาทองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสร็จกลับมายังโลกมนุษย์หลังโปรดพระมารดา อีกทั้งผู้ที่นับถือพุทธศาสนาและพำนักอยู่ในละแวกนี้จะไม่ฆ่าสัตว์  และยังนำมา ปล่อยที่วัดนี้เป็นจำนวนมาก  มีทั้งนก เต่า และหนู ส่วนผู้ที่เข้าชมก็ไม่อนุญาติให้นำสิ่งของที่ทำจากหนังสัตว์ 
เข้าไปภายในวัดนี้ วัดที่ 2 คือ  เจดีย์มหาพุทธ (Maha Budha)  เจดีย์แห่งนี้เลียนแบบองค์เจดีย์พุทธคยาในเมืองพุทธคยา ประทเศอินเดีย ตัวเจดีย์ประดับด้วยพระพุทธรูปปั้นรอบองค์กว่า 10,000 องค์  รอบองค์เจดีย์ประดับด้วยกระเบื้องดินเผาสลักรูปพระพุทธเจ้าปางขัดสมาธินับพันชิ้นเรียงรายจนถึงยอดบน ด้านข้างจะมีวิหารองค์น้อยจำลองรูปสลักตอนประสูติของพระ พุทธเจ้า  ที่ได้จำลองจากเมืองลุมพินี 
ให้ท่านได้แวะซื้อของที่ระลึกใน หมู่บ้านหัตกรรม ซึ่งจะมีร้านค้าต่าง ๆ อาทิ ร้านจำหน่ายเครื่องประดับ ร้านจำหน่ายพรมของชาวทิเบตที่อพยพมาพำนักในเนปาล พรมที่นี่มีชื่อเสียงมากและเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้ที่ดี  นอกจากนี้ยังมีร้านที่จำหน่ายสินค้าจำพวกไม้และงานทองเหลื อง ฯลฯ  ที่นี่ราคาอาจไม่ถูกนักแต่คุณภาพดีและเป็นสถานที่ส่งเสริมงานจากกลุ่มแม่บ้าน
ค่ำ 
รับประทานอาหารค่ำที่ ห้องอาหารของทางโรงแรม
ที่พัก 
 Himalaya hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 
กาฐมัณฑุ - สนามบินดอนเมือง
07.00 น. 
รับประทานอาหารเช้า ที่ โรงแรม
นำท่านสัมผัสกับอีกบรรยากาศหนึ่งของการท่องเที่ยวโดยการเดินเที่ยวชมโดยรอบๆของเมืองเก่าที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งสภาพความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมรวมถึงตึกรามบ้านช่อง ท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตความเ ป็นอยู่ของผู้คนในเมืองอย่างใกล้ชิด ชม พระราชวังหนุมานโดก้า (HANUMAN DHOKA) นอกจากนี้บริเวณโดยรอบจะเต็มไปด้วยวัดที่น่าสนใจมากมายชมวังกุมารเทวี วังของเด็กชาวเนปาลที่ถูกคัดเลือกขึ้นมาเป็นกุมารเทวีเพื่อให้มาปกปักรักษาบ้านเมืองตามตำนาน 
แวะให้ท่านถ่ายรูป ณ จัตตุรัสดูบาร์ ชมเรือนไม้เก่าแก่ที่มี ชื่อว่า กาฐมณฑป (KASTHAMANDAP) 
จากนั้นเดินทางสู่ ท่าอากาศยานตรีภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ
เที่ยง 
รับประทานอาหารกลางวัน set box
13.45 น. 
ออกเดินทางสู่ สนามบินดอนเมือง โดยสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL221
19.30 น. 
เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ
**รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้จัดโดยยึดถือตามสภาพการณ์และประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ