เดินทางสู่ พระราชวังฤดูหนาว (Winter Palace) ที่ประกอบไปด้วยห้องต่างๆ ถึง 1,050 ห้อง สถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็นที่รับรองการเสด็จเยือนประเทศรัสเซียของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในการเจริญสัมพันธไมตรี อดีตเคยเป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์โรมานอฟ ระหว่างปี ค.ศ.1732 -1917 ตั้งอยู่ระหว่างท่าวัง กับ จัตุรัสพระราชวัง ภายนอกของพระราชวังใช้โทนสีเขียว และ ขาว ด้วยสถาปัตยกรรมบารอค ปัจจุบันบางส่วนของพระราชวังฤดูหนาวได้เปิดให้ประชาชนเข้าชม
พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ (TheState Hermitage Museum) ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมงานศิลปะล้ำค่าของโลกกว่า 8 ล้านชิ้น รวมทั้งภาพเขียนของจิตรกรเอกระดับโลก อย่างเช่น ลิโอนาโด ดาวินซี่,ปิกัสโซ่,แรมบรันด์,แวนโก๊ะ เป็นต้น จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง
**ในบางช่วงพระราชวังอาจมีการปิดโดยมิได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ดังนั้นหากวันที่เดินทางตรงกับช่วงวันปิดเข้าชม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนโปรแกรมได้ตามความเหมาะสม โดยจะเปลี่ยนไปเข้าพระราชวังอื่นที่เปิดหรือสถานที่อื่นๆในช่วงเวลาดังกล่าว**
เดินทางสู่ มหาวิหารคาซาน KAZAN CATHEDRAL ได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ปีค.ศ. 1708 ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บนถนนเนฟสกี้ ในสมัยก่อนเป็นโบสถ์เล็กๆ ต่อมาในสมัยของพระเจ้าปอลด์ที่ 1 ในปีค.ศ. 1800 ได้ทำการสร้างวิหารใหม่ ให้ยิ่งใหญ่และสวยงามมากขึ้นกว่าเดิมมหาวิหารแห่งนี้มีลักษณะรูปทรงครึ่งวงกลม มีเสาหินวางเรียงแถวยาวอย่างเป็นระเบียบประกอบไปด้วยเสาโรมัน 96 ต้น และโดมขนาดใหญ่ซึ่งมียอดสูงถึง 90 เมตร ด้านนอกของวิหารมีสวนสาธารณะที่ชาวรัสเซียจะมาพักผ่อนหย่อนใจ
เดินทางสู่ โบสถ์หยดเลือด (Church of the Savior on Spilled Blood) ซึ่งพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ทรงสร้างให้เป็นเกียรติแด่พระเจ้าซาร์ อเล็กซานเดอร์ที่ 2 พระราชบิดาของพระองค์ ผู้ประกาศเลิกทาส ด้วยความหวังดีต่อประชาชน ปรากฎว่าชาวรัสเซียไม่เข้าใจ เพราะหลังเลิกทาส ชาวนากลับมีความเป็นอยู่ที่จนลง เป็นผลให้พวกชาวนารวมตัวกันว่าแผนปลงพระชนม์ โดยส่งหญิงชาวนาผู้หนึ่งติดระเบิดพลีชีพวิ่งเข้ามาขณะพระองค์เสด็จผ่าน ต่อมาบริเวณถนนที่เกิดเหตุนั้นถูกสร้างโบสถ์ครอบไว้ กลายเป็นโบสถ์หยดเลือดมาจนถึงทุกวันนี้ มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับวิหารเซนต์บาซิลที่เมืองมอสโคว