วันที่ 3
การ์มิช - พาร์เท่นเคียร์เช่น - ยอดเขาซุกสปิตเซ่ - มิวนิค - จัตุรัสมาเรียนพาซ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองไอบ์เซ่ เพื่อนำท่านขึ้นรถไฟขึ้นไปยัง ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (Zugspitze) เป็นยอดเขา ที่สูงที่สุดในเยอรมัน (Top of Germany) อิสระให้ท่านสัมผัสกับลานหิมะ และธารน้ำแข็ง
จากนั้นนำท่าน ขึ้นกระเช้า ต่อไปยัง จุดสูงสุดของยอดเขาซุกสปิตเซ่ ณ ระดับความสูง 2,970 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในแต่ละปีจะมีนักท่องเทียวมาที่นี่ ราว 500,000 คน
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ใจกลาง นครมิวนิค เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรปเมืองตั้งอยู่บนแม่น้ำอีซาร์ เหนือเทือกเขาแอลป์ )
นำท่านชม จัตุรัสมาเรียนพาซ ย่านใจกลางเมืองเก่าของมิวนิค ที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองเก่าที่งดงามด้วยศิลปะโกธิค และวิหารแม่พระ โบสถ์ใหญ่ที่มีโดมเป็นรูปทรงคล้ายหัวหอมใหญ่
อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้า ณ ย่านถนนคนเดิน ซึ่งจะมีห้างสรรพสินค้ามากมายหลายแห่ง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำที่ ภัตตาคาร พิเศษกับเมนูขาหมูเยอรมัน+เบียร์
ที่พัก
Mercure Hotel หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 4
มิวนิค - ซาลส์เบิร์ก - ฮัลสตัท - เชสกี้ ครุมลอฟ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยังเมือง ซาลสเบิร์ก เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดลำดับที่ 4 ในประเทศออสเตรีย และเป็นเมืองหลวงของรัฐซาลซ์เบิร์ก เมืองเก่าของซาลทซ์บูกร์กและสถาปัตยกรรมบาโรกเป็นหนึ่งในใจกลางเมืองที่ถูกดูแลรักษาอย่างดีที่สุดในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาเยอรมันด้วยกัน และได้รับการยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ในปี พ.ศ.2540 ซาลซ์เบิร์กเป็นที่จดจำกันในฐานะที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์เมืองแห่งมนเสน่ห์ของเสียงดนตรี และเป็นบ้านเกิดของศิลปินเอก ของโลก โวฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท ถึงซาลส์เบิร์ก
ให้ท่านได้ถ่ายรูปภายใน สวนมิราเบล ที่เคยใช้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music
จากนั้นนำท่านเดินข้าม สะพานข้ามแม่น้ำซาลซาค ไปยัง ย่านถนนคนเดิน
นำท่านไปถ่ายรูป บ้านโมสาร์ทจากด้านนอก จากนั้นให้ท่านอิสระเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกของฝาก
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์ทัทท์ เมืองได้ชื่อว่าตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกฮัลล์ทัทท์ เป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบฮัลล์ทัทท์ (Lake Hallstatt) หรือ ฮัลล์ชตัทท์เทอร์ซี (Hallstatter See) ทะเลสาบในเขตภูมิภาคซาลซ์คัมเมอร์กุท (Salzkammergut) ภูมิภาคทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรียอิสระให้ท่านเดินชมบรรยากาศตามอัธยาศัย หรือท่านสามารถเข้าไปพิสูจน์ความกล้าที่ ไบน์เอาส์ หรือ โบน์เฮาส์ ซึ่งเป็นอาคารขนาดเล็กที่แยกตัวออกจากคริสตจักรภายในเป็นที่เก็บหัวกะโหลกมากกว่า 1,200 กะโหลกส่วนใหญ่เป็นคนที่เสียชีวิตในศตวรรษที่ 18-19
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองมรดกโลก เชสกี้ครุมลอฟ ประเทศสาธารณรัฐเชค เป็นเมืองเก่าที่ แสนสวย และโรแมนติกตั้งอยู่ในวงล้อมของแม่น้ำวัตตาว่ามีปราสาทครุมลอฟซึ่งเป็นปราสาทที่มีการเปลี่ยนมือกันครอบครองจากหลายราชวงศ์ ในยุคกลาง อาทิ โรเซนเบิร์ก ชวาเซนเบิร์ก เอกเก้นเบิร์ก
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษสุดกับ เมนูปลาเทร้า
ที่พัก
The Old Inn Hotel หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 5
เชสกี้ครุมลอฟ - ปราค - มหวิหารเซนต์วิตุส - สะพานชาลส์ - หอนาฬิกาดาราศาสตร์ - จัตุรัสเมืองเก่า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำคณะเดินชมบริเวณจุดชมวิวบริเวณระเบียงของ ปราสาทครุมลอฟ มรดกโลก ซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1250 เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากปราสาทปราก อยู่บนเนินเขาอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ภายในปราสาทแห่งนี้ประกอบไปด้วยห้องต่างๆ ถึง 40 ห้อง ลานปราสาท 5 แห่งและอุทยานอีก 1 แห่งที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาชมทัศนียภาพของตัวเมืองจากลานหน้าอุทยานบ้านเรือนหลังเล็กหลังน้อยหลังคาสีส้มเรียงรายกันเป็นกระจุกๆเหมือนบ้านตุ๊กตาที่สวยงาม
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ กรุงปราค เมืองหลวงของสาธารณรัฐเชค
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำเข้าชมเขต ปราสาทแห่งปราค ซึ่งในยุคกลางที่ใหญ่ที่สุด และถือว่าเป็นที่ประทับของกษัตริย์แห่งเชค กษัตริย์แห่งราชวงศ์แฮบบิร์ก พระนางมาเรีย เทเรซ่า แห่งอาณาจักรออสเตรีย
ชม วิหารเซนต์วิตุส จากด้านนอก ซึ่งเป็นมหาวิหารสไตล์ โกธิคที่ใหญ่ที่สุดของเชคตั้งชื่อเทิดทูนให้กับเซนต์วิตุส ปัจจุบันปราสาทปราคยังเป็นทำเนียบที่ทำการของประธานาธิบดีของสาธารณรัฐเชคอีกด้วย และให้ท่านได้บันทึกภาพกรุงปราคทั้งเมือง ณ จุดชมวิว
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ กรุงปราค เมืองหลวงของประเทศสาธารรรัฐเชค
จากนั้นนำท่านไปยังยัง สะพานชาลส์ ซึ่งสะพานนี้
นำท่านข้ามไปยัง ย่าน Old Town นำท่านชมย่าน Old Town เขตเมืองเก่าของกรุงปราค ชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ อนุสาวรีย์ยานฮุส ซึ่งอดีตเคยเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัย ชาลส์ ในยุคของกษัตริย์ ที่ 4 จากนั้นให้ท่านอิสระเลือกซื้อสินค้า ของที่ระลึกประจำถิ่นได้ ณ เขตเมืองเก่า สินค้าที่ขึ้นชื่อของที่นี่ คือ เครื่องแก้วโบฮีเมีย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษกับเมนูขึ้นชื่อ เป็ดโบฮีเมี่ยน
ที่พัก
Barcelo Hotel หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 6
ปราค - บราติสลาว่า - บูดาเปสต์ - จตุรัสฮีโร สแคว์
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ออกเดินทางสู่ กรุงบราติสลาว่า นครหลวงของประเทศสโลวาเกีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ บราติสลาวาตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสโลวาเกียบน 2 ฝั่งของแม่น้ำดานูบ มีอาณาเขตติดกับประเทศออสเตรียและประเทศฮังการี จึงเป็นเมืองหลวงแห่งเดียวในโลกที่มีอาณาเขตติดต่อกับ 2 ประเทศ เมืองนี้และเวียนนายังเป็นเมืองหลวง 2 แห่งที่ตั้งอยู่ใกล้กันมากที่สุดในยุโรป โดยตั้งอยู่ห่างกันไม่ถึง 60 กิโลเมตรบราติสลาวาเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของสโลวาเกีย เป็นที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดี รัฐสภา และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ และยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย พิพิธภัณฑ์ โรงละคร หอศิลป์ และสถาบันอื่น ๆ ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการศึกษา รวมทั้งสำนักงานใหญ่ของสถาบันทางธุรกิจและการเงินขนาดใหญ่ของสโลวาเกียจำนวนมาก
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านชมเมืองเก่า ชม ประตูไมเคิล จัตุรัสเมืองเก่า ที่ว่าการเมือง โรงละครโบสถ์เซนต์มาร์ติน อันเป็นสัญลักษณ์ เมืองบราติสลาวาได้เวลานัดหมาย
นำท่านออกเดินทางสู่ กรุงบูดาเปสต์ นำท่านชม จัตุรัสวีรบุรุษ สถานที่แห่งนี้เป็นลานโล่งกว้างขนาดใหญ่ ที่มีอนุสาวรีย์แห่งสหัสวรรษ ตั้งตระหง่านอยู่กลางลานฮีโร่แควร์อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการก่อตั้งอาณาจักรฮังการีครบรอบ 1,000 ปี เสาสูงตระหง่านของอนุสาวรีย์ เป็นที่ตั้งของรูปหล่อเทวทูตกาเบรียล อันเป็นสัญลักษณ์ ของคริสตจักรโรมันคาทอลิกที่เป็นดั่งหลักของอาณาจักรฮังการี รอบเสาสูงเป็นที่ตั้งของรูปหล่อผู้นำของชนเผ่าทั้ง 7 ที่ร่วมกันก่อตั้งอาณาจักรฮังการี่ขึ้นเมื่อริศตวรรษที่ 9
ค่ำ
รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร ลิ้มลองซุปกูราซ เข้มข้นที่มีสีแดงสดของพริกปาปริก้า
ที่พัก
Mercure Buda Hotel หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 7
บูดาเปสต์ - ป้อมปราการ ฟิชเชอร์แมน บาสเตียน - ล่องแม่น้ำดานูบ - เวียนนา
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางผ่านชุมชนโรมันโบราณขึ้นไปยัง คาสเซิลฮิลล์ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับคฤหาสน์ของกษัตริย์ และโบราณสถาน ซึ่งยังมีร่องรอยบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต
ชม ป้อมปราการฟิชเชอร์แมนบาสเตียน ที่สะท้อนประวัติศาสตร์การสร้างชาติฮังกาเรียน สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงความกล้าหาญของชาวประมง ผู้เสียสละชีวิตปกป้องบ้านเมืองในตอนที่ถูกพวกมองโกลรุกรานในปี ค.ศ. 1241-1242 ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1905 เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์รอบเมืองที่สวยที่สุด สามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้แบบพาโนราม่า มองเห็นสะพานโซ่ และอาคารรัฐสภาฮังการี่ริมแม่น้ำดานูบที่งดงามตรึงตา ประทับใจกับการที่ได้มาเยือน “บูดาเปสต์” นครหลวงอันงดงามแห่งสาธารณรัฐฮังการี
บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ โบสถ์แมทเทียส เป็นโบสถ์ใหญ่เก่าแก่อายุ 700 ปี ที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โบถส์แห่งนี้ตั้งชื่อตามพระนามของกษัตริย์แมทเทียส กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งฮังการี เมื่ออดีตโบสถ์แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีเถลิงราชสมบัติของกษัตริย์แห่งฮังการี แต่ในช่วงที่ฮังการีถูกรุกรานจากกองทัพเติร์ก สมบัติส่วนใหญ่ถูกขนออกไปและถูกเปลี่ยนสภาพให้เป็นมัสยิส หลักของเมืองภายใต้การปกครองของตุรกีในปี ค.ศ. 1541 และในช่วงสงครามขับไล่กองทัพเติร์ก โบสถ์แมนเทียสได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก กระทั่งเมื่อสงครามสงบลงจึงมีการบูรณะโบสถ์แมทเทียสให้กลับมายิ่งใหญ่และงดงามดังเดิม มีหลังคาสลับสีอันสวยงามตามสไตล์นีโอ-โกธิก ส่วนด้านโบสถ์ประดับประดาไปด้วยภาพเขียนสี และกระจกสีที่บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาที่แสนงดงาม
และยังมี อนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 ปฐมกษัตริย์ของชาวแมกย่าร์ ตั้งเด่นเป็นสง่าให้ได้ชมกันเป็นอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้าผลงานประติมากรรมที่งดงามของศตวรรษที่11เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกตามอัธยาศัย
เพื่อนำท่านเดินทางสู่ท่าเรือเพื่อลงเรือ แม่น้ำดานูบแม่น้ำสายโรแมนติก มนต์เสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของธรรมชาติตลอดจนอาคารบ้านเรือน และความเป็นอยู่ของผู้คนสองฟากฝั่งแม่น้ำดานูบ ณ กรุงบูดาเปสต์ โดยเฉพาะ อาคารรัฐสภาฮังการี ถือว่าสัญลักษณ์ของฮังการี อาคารรัฐสภาตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำดานูบบนฝั่งเปสต์ เป็นอาคารรัฐสภาที่ชาวฮังกาเรี่ยนภูมิใจว่าเป็นอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก เพราะตัวอาคารมีความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-โกธิกที่ดูคลาสสิคด้วย หลังคาสีแดง อาคารรัฐสภาแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1885 และใช้เวลากว่า 20 ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ โดยรูปแบบอาคารได้รับอิทธิพลมาจากอาคารรัฐสภาแห่งลอนดอน สหราชอาณาจักร
เที่ยง
บริการกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย และในอดีตเป็นศูนย์กลางอำนาจของอาณาจักรออสโตร-ฮังกาเรียน เมืองแห่งดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวอีกมากมายที่ต่างพากันมาเยือนดินแดนอันแสนโรแมนติค เป็นศูนย์กลางทั้งเศรษฐกิจและการปกครอง มีประชากรประมาณ 1.6 ล้านคน มีแม่น้ำดานูบไหลผ่าน เวียนนายังเป็นที่ตั้งของหน่วยงานในสหประชาชาติหลายแห่ง เช่น United Nations Industrial Development Organization (UNIDO) และองค์กรระดับนานาชาติหลายแห่ง เช่น โอเปก (OPEC)
ค่ำ
รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร (พิเศษกับเมนู ซี่โครงหมูย่างเวียนนา)
ที่พัก
Art Hotel หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 8
เวียนนา - พระราชวังเชรินน์บรุนน์ - ช้อปปิ้งถนน คาร์ทเนอร์ - กรุงเทพฯ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเข้าชมภายใน พระราชวังเชรินน์บรุนน์ พระราชวังฤดูร้อนแห่งราชวงศ์ฮับสเบิร์กที่มีความสวยงามและยิ่งใหญ่ไม่แพ้พระราชวังใดในยุโรปที่มีการตกแต่งห้องด้วยศิลปะในหลายรูปแบบทั้ง บารอค, รอคโคโค หรือศิลปะประยุกต์จากทางเอเซีย ชมเมืองเวียนนา เมืองแห่งดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวอีกมากมายที่ต่างพากันมาเยือนดินแดนอันแสนโรแมนติค นำท่านผ่านชมความงามของอาคารสำคัญๆ อาทิ อาคารรัฐสภา โรงละครโอเปร่า
จากนั้นนำท่านไปยัง ร้านค้าปลอดภาษี ซึ่งจะมีสินค้าแบนด์เนมต่างๆ หลากหลายประเภท และหลากหลายี่ห้อ อาทิเครื่องแก้วชวาลอฟสกี้ นาฬิกาสวิส กระเป๋า ฯลฯ
จากนั้นนำท่านเดินช้อปปิ้งย่านใจกลางเมืองบนถนนคนเดิน คาร์ทเนอร์สตราเซ่ ที่มีร้านค้านานาชนิด ของแบรนด์เนมชื่อดังหลากหลายยี่ห้อ และยังเป็นที่ตั้งของ วิหารเซนต์ สตีฟาน ซึ่งเป็นวิหารศักดิ์สิทธิ์ของกรุงเวียนนา
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินกรุงเวียนนา เพื่อเตรียมเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ
22.40 น.
คณะออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบิน กาตาร์ แอร์เวยส์ เที่ยวบินที่ QR 186/ QR 832 แวะเปลี่ยนเครื่องที่ สนามบินโดฮา
19.00 น.
คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ด้วยความสวัสดี