วันที่ 1
กรุงเทพฯ - ย่างกุ้ง - เจดีย์ไจ๊เข้า - เทพทันใจไจ๊เข้า - สิเรียม - เจดีย์เยเลพญา - เจดีย์โบตาทาวน์ - เทพทันใจ - เทพกระซิบ - เจดีย์สุเล - พระมหาเจดีย์ชเวดกอง - ย่างกุ้ง
04.30 น.
พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 ขาออก ชั้น 2 เคาน์เตอร์สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ประตู 6 Thai Lion Air (SL) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
07.35 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงย่างกุ้ง โดยสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบิน SL200
หมายเหตุ เนื่องจากตั๋วเครื่องบินของคณะเป็นตั๋วกรุ๊ประบบ Random ไม่สามารถล็อกที่นั่งได้ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกันและไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนเครื่องบินได้ในคณะ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสายการบิน
08.25 น.
เดินทางถึง สนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เมียนม่าร์ ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)
จากนั้น นำท่านแวะสักการะ เจดีย์ไจ๊เข้า (Kyaik Khauk Pagoda) ซึ่งเป็นเจดีย์ที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของพม่า ถือเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองสิเรียม
พิเศษสุด !! ขอพรเทพทันใจไจ๊เข้า ซึ่งเป็นหัวหน้าของเทพทันใจในย่างกุ้ง ที่ไหนที่สร้างเทพทันใจต้องมาบรวงสรางขออนุญาตที่นี้ก่อน ที่สำคัญ ใครอยากได้งานใหญ่เงินใหญ่คนพม่าจะมาขอที่นี้ ทั้งเรื่องงาน เงินและความสำเร็จ ถ้าจะนับแล้วองค์นี้เป็นเทพทันใจที่ใหญ่ที่สุดในย่างกุ้ง
จากนั้น เดินทางสู่ เมืองสิเรียม (Thanlyin) ซึ่งอยู่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ 45 กิโลเมตร เมื่อเดินทางถึงสิเรียม ชมความสวยงามแปลกตาของเมือง ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นเมืองท่าของโปรตุเกสในสมัยโบราณ ตั้งแต่ในสมัย นายพลฟิลิป เดอ บริโต ยี นิโคเต จนมาสิ้นสุดเมื่อปี พ.ศ. 2156 ร่วมสมัยพระเจ้าทรงธรรมกรุงศรีอยุธยา ท่านจะเห็นเศษซากกำแพงสไตล์ลูซิตาเนียนบาโรก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำย่างกุ้งที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอิระวดี
ชม พระเจดีย์เยเลพญา (Kyaik Hwaw Wun Pagoda) พระปางมารวิชัยอันงดงามบนเกาะกลางน้ำอายุนับพันปี เป็นที่สักการะของชาวสิเรียม เกาะนี้ไม่ว่าน้ำจะขึ้นสักเท่าไหร่ก็ไม่มีวันน้ำท่วมได้ ที่บริเวณท่าเทียบเรือบนเกาะ
นำท่านไหว้สักการะเพื่อขอพร พระจกบาตร หรือ พระอุปคุป ที่เป็นที่นับถือของชาวพม่า สามารถซื้ออาหารเลี้ยงปลาดุกตัว ขนาดใหญ่นับร้อยๆ ตัวที่ว่ายวนเวียนให้เห็นครีบหลังที่โผล่เหนือผิวน้ำ
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับ ย่างกุ้ง
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
ชม เจดีย์โบตาทาวน์ สร้างโดยทหารพันนาย เพื่อบรรจุพระบรมธาตุที่พระสงฆ์อินเดีย 8 รูป ได้นำมาเมื่อ 2,000 ปีก่อน ในปี 2486 เจดีย์แห่งนี้ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์ จึงพบโกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุ พระบรมธาตุอีก 2 องค์ พระพุทธรูปทองเงินสำริด 700 องค์ จารึกดินเผาภาษาบาลี และตัวหนังสือพราหมณ์อินเดียทางใต้ ต้นแบบภาษาพม่า ภายในเจดีย์ที่ประดับด้วยกระเบื้องสีสันงดงาม และมีมุมสำหรับฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์
จากนั้น นำท่านขอพร นัตโบโบยี หรือ พระเทพทันใจ เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทย วิธีการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบยี) เพื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปราถนาก็ ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย หรือผลไม้อื่นๆมาสักการะ นัตโบโบยี จะชอบมาก จากนั้น ก็ให้เอาเงินจะเป็นดอลล่า บาท หรือจ๊าด ก็ได้ (แต่แนะนำให้เอาเงินบาทดีกว่าเพราะเราเป็นคนไทย) แล้วเอาไปใส่มือของนัตโบโบยีสัก 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึกกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยี แค่นี้ท่านก็จะสมตามความปรารถนาที่ขอไว้
จากนั้นนำท่านข้ามฝั่งไปอีกฟากหนึ่งของถนนเพื่อสักการะ เทพกระซิบ ซึ่งมีนามว่า “อะมาดอว์เมี๊ยะ” ตามตำนานกล่าวว่านางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต ซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว ซึ่งการขอพรเทพกระซิบต้องไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน ชาวพม่านิยมขอพรจากเทพองค์นี้กันมากเช่นกัน การบูชาเทพกระซิบ บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้
จากนั้น นำท่านเข้าชม เจดีย์สุเล (Sule Pagoda) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้ง เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม สีเหลืองทองอร่าม ภายในองค์เจดีย์บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าเอาไว้ ณ เจดีย์แห่งนี้ ยังมีเทพทันใจ องค์ที่โตที่สุด ที่ชาวพม่านับถือมากที่สุด และเชื่อกันว่า ขออะไรจากท่าน ท่านจะประทานให้อย่างรวดเร็ว
เย็น
นำท่านชมและนมัสการ
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagod) พระเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปี เจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง หรือ ตะเกิง ชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่า สถานที่แห่งนี้มี ลานอธิษฐาน จุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบ ท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิรมงคล นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศรวม 8 องค์ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต พระเจดีย์นี้ได้รับการบูรณะและต่อเติมโดยกษัตริย์หลายรัชกาลองค์เจดีย์ห่อหุ้มด้วยแผ่นทองคำทั้งหมดน้ำหนักยี่สิบสามตันภายในประดิษฐานเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวนแปดเส้นและเครื่องอัฐะบริขารของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนทั้งสามพระองค์ บนยอดประดับด้วยเพชรพลอยและอัญมณีต่างๆ จำนวนมาก และยังมีเพชรขนาดใหญ่ประดับอยู่บนยอดบริเวณเจดีย์จะได้ชมความงามของวิหารสี่ทิศซึ่งทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆงานศิลปะและสถาปัตยกรรมทุกชิ้นที่รวมกันขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพุทธเจดีย์ล้วนมีตำนานและภูมิหลังความเป็นมาทั้งสิ้นชมระฆังใบใหญ่ที่อังกฤษพยายามจะเอาไปแต่เกิดพลัดตกแม่น้ำย่างกุ้งเสียก่อนอังกฤษกู้เท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นภายหลังชาวพม่า ช่วยกันกู้ขึ้นมาแขวนไว้ที่เดิมได้ จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีซึ่งชาวพม่าถือว่าเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ ให้ตีระฆัง 3 ครั้งแล้วอธิษฐานขออะไรก็จะได้ดั่งต้องการจากนั้นให้ท่านชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไป นำท่านร่วมบูชาแม่ยักษ์ที่เชื่อกันว่าการบูชาท่านจะช่วยในการตัดกรรมหรือศัตรู หรือ พระพยุงโชคชะตา อยู่ในช่องแคบเข้าได้ทีละคน และพระสุริยันจันทรา ขอพรเรื่องธุรกิจ
วันเกิด
|
อาทิตย์
|
จันทร์
|
อังคาร
|
พุธ
|
พุธกลางคืน
|
พฤหัสบดี
|
ศุกร์
|
เสาร์
|
สัตว์สัญลักษณ์
|
ครุฑ
|
เสือ
|
สิงห์
|
ช้างมีงา
|
ช้างไม่มีงา
|
หนูหางยาว
|
หนูหางสั้น
|
พญานาค
|
คำไหว้พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
วันทามิ อุตตมะ ชมพู วระฐาเน สิงกุตตะเร มะโนลัมเม สัตตัง สะรัตนะ
ปฐมัง กกุสันธัง สุวรรณะ ตันตัง ธาตุโย ธัสสะติ ทุติยัง โกนาคะมะนัง
ธัมมะ การะนัง ธาตุโย ธัสสะติ ตติยัง กัสสปัง พุทธจีวะรัง ธาตุโย
ธัสสะติ จตุกัง โคตะมัง อัตถะเกศา ธาตุโย ธัสสะติ อหัง วันทามิ ตุระโต อหัง วันทามิ ธาตุโย
อหัง วันทามิ สัพพะทา อหัง วันทามิ สิระสา
*** อธิษฐานพร้อมด้วยใบไม้ที่แปลว่าชัยชนะและความสาเร็จ ***19.00 น.
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ชาบูชิ บุฟเฟ่ต์ อร่อยเต็มอิ่มกับชาชูชิ สุกี้หม้อไฟและซูชิ ข้าวปั้นสารพัดหน้าในเครือโออิชิ
ที่พัก
Summit Parkview Hotel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 2
ย่างกุ้ง - เจดีย์กาบาเอ ทำพิธีครอบเศียร - เจดีย์ไจ้กะส่าน - เจดีย์เอ่งต่อหย่า - เจดีย์เมียตซอนินเนือง - ตลาดสก็อต
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านชม เจดีย์กาบาเอ (World Peace Pagoda) สร้างครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2493 - 2495 โดยนายอูนุนายกรัฐมนตรีคนแรกของพม่า เพื่อใช้เป็นสถานที่ชำระพระไตรปิฎกครั้งที่ 6 ในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2497 - 2499 และเพื่อให้บังเกิดสันติสุขแก่โลก ล่าสุดใช้เป็นสถานที่ใช้ในการประชุมสงฆ์โลกเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2547 ที่ผ่านมา ที่สำคัญเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมทั้งพระธาตุของ พระสารีบุตรและพระโมคลานะ โดยนำพระธาตุมาจากประเทศอินเดีย
จากนั้น นำคณะร่วมทำ พิธีอันศักดิ์สิทธิ์ครอบเศียร ครอบเกล้า ด้วยพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งมีความเชื่อว่า “หากท่านใดได้ทำพิธีมงคลบูชารับพระธาตุ ท่านนั้นจะหมดเคราะห์ ตัดกรรม และมีโชคดีตลอดไป นอกจากนั้นยังมีพระมหามุนีจำลอง (สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 5 ของพม่าองค์จริงอยู่ที่มัณฑะเลย์)
**หมายเหตุ** การทำพิธ๊ครอบเศียร คณะจำนวน 20 ท่านขึ้น ไปถึงจะทำพิธีได้**
จากนั้น เดินทางสู่ เจดีย์ไจ๊กะส่าน (kyaikkasan pagoda) ตั้งอยู่เมืองย่างกุ้ง สร้างขึ้นเมื่อพุทธศักราช 218 โดยกษัตริย์ ตีรี่ตำมาดอก้า แห่งอินเดีย ภายในบรรจุพระเกศา 16 เส้นและพระธาตุส่วนอื่นๆ 32 องค์ เป็นชื่อภาษามอญว่า “ไจ๊ อะแส่น” ไจ๊ แปลว่า พระธาตุ อะแส่น แปลว่า พระอรหันต์ แปลรวม “พระธาตุสร้างในการนำของพระอรหันต์” ส่วนเส้นเกศาธาตุและพระธาตุ ที่เหลือ เลยแบ่ง ไปสร้าง พระธาตุอีก 10 สถานที่. ประจุบัน พม่าเลยมาเรียกออกเสียงสำเนียงพม่าว่า “ไจ๊กะสาน” จากชื่อมอญ“ไจ๊อะแส่น” พระธาตุอายุตั้งแต่สร้างมาถึงประจุบัน มี สองฟันกว่าปีแล้ว ตอน ย่างกุ้ง กลายเป็นเมืองร้าง ไม่มีใครอยู่ ยักษ์สองพี่น้อง ชื่อ “นองดอ องค์พี่ และ “นยีดอ” องค์น้อง รับหน้าที่ เฝ้าเกศาธาตุและพระธาตุ ที่บรรจุในพระธาตุไว้. เผื่อไม่ให้มีการขโมยแล้วเอาไปที่อื่น แล้วจะมีเจ้าที่ ที่เฝ้าดูแลสถานที่ไว้ เพื่อไม่ให้มีการโกง ตามประวัติแล้ว คนพม่า เลยมีความเชื่อว่า ถ้ามีคดีต่างๆ ที่ต้องประสพ ส่วนมากจะมาขอจากเทพไจ๊กะส่าน เพื่อความยุติธรรมและชนะคดีแล้ว กับยักษ์สองพี่น้องให้มาดูแล และอย่าให้สิ่งไม่ดีต่างๆ เข้ามาขวางในการยุติธรรมของคดีชาวพม่านิยมมาไหว้ สักการะขอพรในเรื่องคดีความต่างๆ
จากนั้น นำท่านไปยัง เจดีย์เอ่งต่อหย่า (Eain taw Yar pagoda) สร้างโดยกษัตริย์กงบาว ผู้มีชื่อเสียงและอำนาจในยุคกงบาว ท่านมีความศรัทธามาก โดยสร้างมากว่า 170 ปี Eain Taw แปลว่า บ้าน ที่พัก Yar แปลว่า ร่องรอย แปลรวมกัน (ร่องรอยของบ้านที่พัก)ตามประวัติแล้ว คนพม่ามีความเชื่อว่า สถานที่ พื้นที่ ถ้าคู่ควรกับคนไหน คนนั้นซึ้งจะได้เป็นเจ้าของ เลยมาขอเรื่องบ้าน ที่ดิน ที่จะคู่ควรกับตนเอง และในบริเวณพระธาตุ จะมีเทพ ที่ดูแลปกป้องรักษาสถานที่ด้วย สามารถไปกลับท่าน ให้ท่านประทานที่อยู่อาศัยที่คู่ควรกับตน ขอในเรื่องที่อยู่ ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านไปยัง เจดีย์เมียตซอนินเนือง (Myat Saw Nyi Naung) ตามประวัติเล่าว่าพ่อค้า ตุมะนะ สองพี่น้อง มาทำการค้าขายที่ ท่าเรือ จี้หมิ่นด่าย แล้วศรัทธาที่จะสร้าง วัดให้แก่พระสงฆ์ในสมัยยุคอังกฤษครองพม่า สองพี่น้องเอาเงินกำไล มาสร้างวัด สร้างเจดีย์สององค์ สร้างศาลาให้พระพุทธรูปมานอ่องหมื่นสะจ่าชิ่น ซึ่งมีการกราบไหว้มา ตั้งแต่กษัตริย์พม่า พระพุทธรูปดังกล่าว มีความเชื่อว่า พ่อค้าที่มาจากหลากหลาย สถานที่จะมากราบไหว้ เพื่อที่จะชนะทุกๆอย่างในการดำเนินธุรกิจ. ปัจจุบัน พ่อค้า และ คนพม่า รวมทั้งผู้มีอำนาจในพม่า จะมาทำบุญ ขอพรจาก พระพุทธรูป และ ขอพรเทพ ที่เฝ้าดูแล ย่านธุรกิจ ท่าเรือ ใกล้กับบริเวณ พระเจดีย์แม็ดซอนยีหน่อง. วัดแห่งนี้ อายุ ประมาณ 160 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีการทำบุญ สร้างวัดเพิ่ม ดูแลไว้ถึงปัจจุบันกันจาก การบริจาค ของประชาชนคนพม่า. ขอพรในเรื่องชนะในเรื่องภยันตรายต่างๆ
จากนั้น นำท่านเที่ยวชม ตลาดโบโจ๊ก อองซาน (Bogyoke Aung San) หรือ ตลาดสก๊อต (Scot Market) เป็นตลาดเก่าแก่ของชาวพม่า สร้างขึ้นโดยชาวสก๊อตในสมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เป็นลักษณะอาคารเรียงต่อกันหลายหลัง สินค้าที่จำหน่ายในตลาดแห่งนี้มีหลากหลายชนิด เช่น เครื่องเงิน ที่มีศิลปะผสมระหว่างมอญกับพม่าภาพวาด งานแกะสลักจากไม้ อัญมณี หยก ผ้าทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป แป้งทานาคา (หากซื้อสิ้นค้าหรืออัญมณีที่มีราคาสูงควรขอใบเสร็จรับเงินด้วยทุกครั้ง เนื่องจากจะต้องแสดงให้ศุลกากรตรวจ)
สมควรเวลาเดินสู่ สนามบินนานาชาติมิงกาลาดง
20.45 น.
ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL207
22.45 น.
เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม